โรงเรียนหลายแห่งในเมืองนิวยอร์กห้ามการใช้ ChatGPT ปัญญาประดิษฐ์สร้างคำตอบเชิงสนทนา เช่นเดียวกับสำนักงานการศึกษาของเมืองนิวยอร์กที่ระงับการเข้าถึง ChatGPT ในเครือข่ายออนไลน์เช่นกัน
เจนนา ไลล์ (Jenna Lyle) ผู้แทนของสำนักงานการศึกษาของเมืองนิวยอร์กให้เหตุผลว่าที่ต้องระงับการเข้าถึง ChatGPT ก็เพราะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเฉพาะในการคิดวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา และยังมีข้อห่วงกังวลในเรื่องความปลอดภัยและความแม่นยำของเนื้อหาที่ ChatGPT สร้างขึ้น
ในขณะที่บรรดาโรงเรียนและนักการศึกษากังวลว่า ChatGPT อาจทำให้การบ้านล้าสมัยไป และอาจส่งเสริมการโกงและการคัดลอกผลงานด้วย
ทั้งนี้ การระงับการเข้าถึง ChatGPT ของสำนักงานการศึกษามีผลเฉพาะในบางกรณีเท่านั้น นักเรียนที่ใช้คอมพิวเตอร์และเครือข่ายนอกภาคการศึกษายังเข้าสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของ OpenAI เพื่อใช้งาน ChatGPT ได้ตามปกติ
OpenAI ออกมาตอบกรณีนี้ว่าบริษัทกำลังพัฒนาวิธีการที่จะช่วยให้ภาคการศึกษาสามารถแยกแยะได้ว่าคำตอบที่นำมาตอบการบ้านเป็นผลงานของ ChatGPT หรือไม่อยู่
อดัม สตีเวนส์ (Adam Stevens) ครูประวัติศาสตร์ผู้มากประสบการณ์จากเมืองนิวยอร์กชี้ว่าการปิดกั้นการใช้งาน ChatGPT นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์นัก โดยเปรียบความกลัว ChatGPT ว่าเป็นเหมือนความกลัว Google เมื่อ 15-20 ปีก่อน
สตีเวนส์แนะว่าวิธีการหยุดไม่ให้นักเรียนใช้ ChatGPT และหันมาพัฒนาความสามารถในการเขียนวิเคราะห์ที่ดีที่สุดก็คือการมอบหมายงานที่ชี้ชวนให้นักเรียนค้นหาสิ่งที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ และหลีกเลี่ยงการเขียนที่เป็นแบบแผนมากเกินไป
สำหรับ ChatGPT เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาโดย OpenAI มีความสามารถในการสร้างคำตอบเชิงวิชาการโดยอาศัยเทคโนโลยี Machine Learning
ที่มา cybersecuritynews
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส