มาร์ค เกอร์แมน (Mark Gurman) นักข่าวจาก Bloomberg ได้เปิดเผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับรายละเอียดของ Reality Pro ซึ่งเป็นอุปกรณ์ VR สวมศีรษะรุ่นแรกของ Apple ที่อาจได้รับการเปิดตัวในงาน WWDC และอาจวางจำหน่ายในราคาสูงถึง 3,000 เหรียญ (ประมาณ 98,500 บาท) ในปลายปี 2023 นี้

Apple พัฒนา Reality Pro มานาน 7 ปี โดยฝีมือของแผนก Technology Development Group ที่มีนักพัฒนามากกว่า 1,000 คน โดยนี่เป็นโปรเจ็กต์อุปกรณ์ประเภทใหม่ตัวแรกของ Apple นับตั้งแต่เปิดตัว Apple Watch เมื่อปี 2015 เป็นต้นมา

รายงานดังกล่าวระบุว่า Reality Pro จะผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียม, กระจก และวัสดุรองรับแรงกระแทก โดยมีหน้าจอทรงโค้งที่ด้านหน้าเพื่อแสดงภาพแก่ผู้ใช้, มีลำโพงทั้ง 2 ด้าน และแถบคาดศีรษะจะยึดกับศีรษะของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี

มีรายงานว่า Reality Pro ใช้ชิปเซต M2 ในการประมวลผล และมีชุดแบตเตอรี่ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ผ่านสายเคเบิลซึ่งผู้ใช้สามารถพกพาหรือเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อได้ โดยแบตเตอรี่ดังกล่าวมีขนาดเท่ากับแบตเตอรี่ของ iPhone 14 Pro Max จำนวน 2 ตัวรวมมาเรียงต่อกัน และใช้ได้นานสุดถึง 2 ชั่วโมง

Apple Reality Pro

อุปกรณ์ VR ดังกล่าว ใช้การติดตามใบหน้าและดวงตามผสานเข้ากับเทคโนโลยี VR และ AR, มีกล้องเสริม 7 ตัว เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของมือ, มีเซนเซอร์ภายในเพื่อติดตามดวงตาผู้ใช้ตลอดเวลา และมีอินเทอร์เฟซของตนเองที่เรียกว่า xrOS ซึ่งใช้งานคล้ายกับ iPhone หรือ iPad เช่น การขยายภาพด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เป็นต้น ซึ่งหมายความว่า Reality Pro นั้น ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ควบคุมเสริมแต่อย่างใด และเป็นจุดที่แตกต่างจากอุปกรณ์ VR ของคู่แข่งอย่าง Meta ชัดเจน

Reality Pro จะมีปุ่มเม็ดมะยม Digital Crown คล้ายกับ Apple Watch ด้วย เพื่อสลับการทำงานระหว่าง VR และ AR ซึ่งจะเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของอุปกรณ์นี้เลยก็ว่าได้ และในส่วนของการ FaceTime ก็ยังสามารถเรนเดอร์ภาพใบหน้าและภาพเต็มตัวของผู้สนทนาบนพื้นสภาพแวดล้อมจริง เพื่อให้ผู้สนทนารู้สึกสมจริงมากที่สุด รวมถึงยัแสดง Memoji ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นจอเสริมจากเครื่อง Mac โดยจะปรากฏเป็นจอในรูปแบบ VR ที่ผู้ใช้สามารถตอบสนองด้วย Touchpad, เมาส์ หรือคีย์บอร์ดได้ โดยในส่วนของระบบเสียงนั้นจะเป็น Spatial Audio ที่ Apple นำมาใช้กับ AirPods

Apple ได้กล่าวว่าจะเตรียมเปิดให้ผู้ใช้มาทดสอบการใช้ Reality Pro ใน Apple Store ได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่ง Apple นั้น อาจวางแผนในระยะยาว และยังไม่คาดว่าหวังว่าอุปกรณ์รุ่นแรกจะสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทมากนัก

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส