โจเซฟ ซัลลิแวน (Joseph Sullivan) อดีตประธานเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงปลอดภัยได้รับโทษคุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปีในความผิดปกปิดการโจมตีทางไซเบอร์จากภาครัฐ
นอกจากการคุมประพฤติแล้ว ซัลลิแวนยังต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 50,000 เหรียญ (ราว 1.6 ล้านบาท) และทำงานบริการสังคม 200 ชั่วโมงด้วย
ศาลตัดสินว่าซัลลิแวนมีความผิดจากการจ่ายค่าปิดปากกับแฮกเกอร์เป็นเงินจำนวน 100,000 เหรียญ (ราว 3.3 ล้านบาท) หลังจากที่แฮกเกอร์รายดังกล่าวเจาะเข้าไปยังฐานข้อมูลลูกค้า Uber จำนวน 57 ล้านรายได้
การแฮกนี้เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2016 โดยมีแฮกเกอร์รายหนึ่งส่งอีเมลไปหาซัลลิแวนบอกว่าได้ขโมยข้อมูลของ Uber ไปเป็นจำนวนมาก แต่จะลบให้หากได้รับเงินค่าไถ่
จากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม (DoJ) ชี้ว่าซัลลิแวนจ่ายเงิน 100,000 เหรียญเพื่อแลกกับการไม่เปิดเผยการแฮกในครั้งดังกล่าวสู่สาธารณะ โดยมีการปกปิดเงินจำนวนดังกล่าวว่าเป็นเงินค่าล่าหาช่องโหว่ในระบบ
ซึ่งพนักงานที่ทำงานให้กับซัลลิแวนยืนยันว่ามีการขโมยข้อมูลผู้ใช้งานจำนวน 57 ล้านคน และข้อมูลเลขทะเบียนขับขี่ 600,000 หมายเลขออกไปจริง
ซัลลิแวนยังมีความผิดฐานขัดขวางกระบวนการสืบสวนของคณะกรรมการการค้ากลางของสหรัฐอเมริกา (FTC) ด้วย
สำหรับแฮกเกอร์รายดังกล่าวถูกตั้งข้อหาในคดีสมรู้ร่วมคิด และยอมรับสารภาพตั้งแต่ปี 2019
ที่มา BBC News
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส