ล่าสุดหน่วยงานกำกับดูแลสหภาพยุโรปได้เรียกค่าปรับสูงสุดในประวัติศาสตร์ 1,200 ล้านยูโรหรือราว 45,000 ล้านบาทต่อ Meta บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ จากข้อหาละเมิดถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองสหภาพยุโรปไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ
หน่วยงานกำกับดูแลสหภาพยุโรปมีระเบียบข้อบังคับปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในสหภาพยุโรปที่มีชื่อว่า General Data Protection Regulation (GDPR) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา และเป็นต้นแบบในออก พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของประเทศไทย
โดยตัวระเบียบ GDPR นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานในการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลเข้า และออกสหภาพยุโรป ซึ่งบริษัทต่าง ๆ จะต้องปฏิบัติตาม ล่าสุดคณะกรรมการหน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลของไอร์แลนด์ได้สอบสวน Meta และกล่าวหาว่าบริษัทได้ละเมิดข้อบังคับ GDPR ที่ได้ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองสหภาพยุโรปไปยังสหรัฐฯ พร้อมกับแจ้งให้ทาง Meta ต้องระงับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังสหรัฐฯ ในระยะเวลา 5 เดือนต่อจากนี้ไป
ค่าปรับ 1,200 ล้านยูโรในครั้งนี้สำหรับ Meta ถือว่าเป็นค่าปรับสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่สูงกว่าสถิติเดิมที่ Amazon ถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 746 ล้านยูโรจากการละเมิดระเบียบ GDPR ในปี 2021
ซึ่งในขณะนี้ Meta อยู่ในระหว่างการยื่นอุทธรณ์เพื่อระงับคำสั่งดังกล่าว โดยอ้างถึงผลกระทบโดยตรงที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ Facebook หลายล้านคน และนอกจากนี้ Meta ยังหวังว่าข้อตกลงความเป็นส่วนตัวระหว่างสหภาพยุโรป และสหรัฐฯ จะออกทันก่อนกำหนดเส้นตายของหน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลของไอร์แลนด์