ประเด็นสำคัญที่หลายๆ คนต่างให้ความสำคัญใน MacBook Pro รุ่นใหม่ เห็นจะไม่ใช่เรื่อง Touch Bar ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของแล็ปท็อป แต่กลายเป็นพอร์ทที่มีแต่ Thunderbolt 3 (USB-C) ซึ่งตรงนี้ นักวิเคราะห์ก็มองว่า สิ่งที่ Apple ทำคือการออกแบบเพื่ออนาคต เพราะทิศทางของอุปกรณ์จะเริ่มเปลี่ยนไปใช้ USB-C กันมากขึ้น แต่ก็ทำให้การใช้งานในปัจจุบันนั้นลำบากไปมากเลยทีเดียว

ความ “โปร” ต้องมี 3 อย่างนี้

ต่างคนต่างความคิด เป็นเรื่องยากที่จะให้ทุกคนมีความเห็นเหมือนกันว่าของระดับโปรต้องมีอะไรมากมายขนาดไหน แต่อย่างน้อยก็ต้องมีสามอย่างนี้

  1. มีความน่าเชื่อถือ: ด้วยอุปกรณ์ที่เป็นระดับโปรนั้น จะต้องมีความน่าเชื่อถือถึงแม้ว่าจะมีการใช้งานอย่างหนักหรืออยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม
  2. มี Power: อุปกรณ์ระดับโปร จะต้องให้อะไรมากกว่าอุปกรณ์ทั่วไป อย่างน้อยก็เป็นเรื่องของ CPU GPU ,หน่วยความจำหรือ Memory หรือ I/O bandwidth การจ่ายเงินที่มากจะต้องได้สิ่งที่คุ้มค่ากลับมาด้วยโดยไม่ต้องรอให้ผู้ใช้งานรอเครื่องทำงานเลย
  3. มีความคล่องตัว อเนกประสงค์: อุปกรณ์ระดับโปรจะต้องสามารถใช้งานได้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย รวมถึงสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดคาดฝัน ผู้ใช้งานไม่มีทางรู้ได้ว่า เวลาไหนพวกเขาต้องการพอร์ท หรือฟีเจอร์อะไร หรือแบตเตอรี่จะอยู่ได้นานพอที่จะทำงานให้เสร็จได้หรือไม่ ความโปรจะต้องมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับผู้ใช้งานได้

MacBook Pro เป็นอุปกรณ์ที่ดี แต่อาจจะยังไม่ถึงเวลาของมัน

macbook-pro-port

USB-C เจ๋งจริง แต่ต้องขอเวลาอีกหน่อย

การที่ Apple เปลี่ยนมาใช้ USB-C ใน MacBook Pro ตอนนี้ทำให้ผู้ใช้งานหลายๆ คน ปรับตัวกันไม่ทัน เนื่องจาก USB-A หรือพอร์ททั่วๆ ไปที่เรารู้จักกัน เช่น แฟลชไดร์ เป็นต้น ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมานานถึง 18 ปี ดังนั้น หากจะเปลี่ยนไปใช้ USB-C แบบเต็มตัวก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นปีถึงจะแพร่หลายพอ

สินค้าระดับโปรควรจะมีพอร์ทส่วนใหญ่ที่เป็น USB-C แต่อย่างน้อยก็ต้องมี USB-A มาให้ด้วยเผื่อในสถานการณ์จำเป็นต่างๆ

สรุปคือ MacBook Pro 2016 นี้ เป็นแล็ปท็อปเครื่องแรกที่ออกแบบมาเพื่อ อนาคต แต่การใช้งานในปัจจุบันซึ่งพอร์ทที่ใช้ส่วนใหญ่ยังเป็น USB-A นั้นสร้างความลำบากให้กับผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก

อ้างอิง