Apple เริ่มวางจำหน่าย Apple Vision Pro เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์สร้างเสียงฮือฮาให้ทั้งคนที่มาซื้อและมาลองอุปกรณ์ที่ร้าน Apple Store ด้วยความสามารถที่แปลกตาก็ทำให้หลายคนถึงกับทึ่งในอุปกรณ์ชิ้นนี้กันไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะพอใจ หลังผ่านไปได้เกือบ 2 อาทิตย์ก็มีผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยนำ Apple Vision Pro มาคืนที่ Apple Store ด้วยเหมือนกัน
หนึ่งในเหตุผลหลักที่ผู้ใช้งานคืน Apple Vision Pro คือขนาดของตัวเครื่องที่เทอะทะมาก ๆ อย่าง YouTuber ชื่อ ฟาร์ซาด เมสบาฮี (Farzad Mesbahi) ที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเทคโนโลยีบอกว่าการสวมใส่ Apple Vision Pro ที่หนักและใหญ่นั้นไม่สะดวกสบายเลยแม้ว่าจะนั่งอยู่ เขาไม่สามารถใส่มันได้นานเหมือนเวลาใช้งานสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
คอลลิน ไมเคิล (Collin Michael) YouTuber ที่เป็นแฟนตัวยงของ Apple บอกว่าน้ำหนักของ Apple Vision Pro มันมากเกินไป เขาใช้ Apple Vision Pro เหมือนกับที่ใช้งานบน iPhone และ Mac ซึ่งถ้าต้องลำบากมากขึ้น ก็เลือกทำบนอุปกรณ์เดิมดีกว่า
ปาร์เกอร์ ออโตลานี (Parker Ortolani) และผู้ใช้งาน Reddit บางส่วนก็เลือกคืน Apple Vision Pro ด้วยเหตุผลเดียวกันคือเรื่องของขนาดและน้ำหนักที่มาก สวมใส่ไม่สบายเลย
นอกจากเรื่องของขนาดแล้ว ในแง่ของซอฟต์แวร์ เมสบาฮีบอกว่าการเปิดแอปขึ้นมาซ้อนทับกับโลกความเป็นจริงนั้นลดระดับการมองเห็นของผู้ใช้งาน ทำให้ไม่สามารถสังเกตสภาพแวดล้อมได้อย่างชัดเจน ด้านไมเคิลบอกว่าระหว่างใช้งานพบเส้นขอบสีดำขนาดใหญ่ซึ่งรบกวนการใช้งาน หรือเมื่อใช้งานร่วมกับ MacBook พบว่ายังไอคอนด้านล่างนั้นยากต่อการใช้งาน
ผู้ใช้งานบางกลุ่มมองว่า Apple Vision Pro ไม่ได้มอบประสบการณ์ที่แตกต่างมากพอกับค่าตัว 3,500 เหรียญแม้ว่าจะมีแอปที่รองรับมากถึง 600 แอป
YouTuber ชื่อ เคน ซัตเตอร์ (Kane Sutter) บอกว่า Apple Vision Pro ไม่ได้มอบประสบการณ์ที่หลากหลายมากพอที่จะทำให้ต้องใช้งานได้นานขนาดนั้น ซึ่งซัตเตอร์มองว่าต้องมีเหตุผลมากพอที่จะซื้ออุปกรณ์ในราคานี้
และ ผู้ใช้งานบางคนก็ยอมรับว่าแค่ต้องการทดลองเลยซื้อมาลองแล้วคืน อย่าง แมตต์ ชไนเดอร์ (Matt Schneider) บอกว่า “Apple ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ถ้าคิดว่าผมจะยอมจ่ายเงิน 4,000 เหรียญเพื่อซื้อมัน” ซึ่งชไนเดอร์ก็ซื้อมาแค่ลองใช้งาน Instagram และดู YouTube
Apple มีนโยบายให้ลูกค้าสามารถคืนสินค้าภายในระยะเวลา 14 วันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นสินค้าใดและเหตุผลใดก็ตาม ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่จะมีคนซื้อไปลองความสามารถของมันแล้วถ้าไม่พอใจก็คืน Apple ไปครับ
ที่มา Business Insider
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส