วันที่ 15 กุมภาพันธ์ แอมะซอน (Amazon) ได้ยื่นเอกสารต่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ แจ้งว่า เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) ผู้ก่อตั้งแอมะซอนได้ขายหุ้นในแอมะซอนเมื่อวันที่ 13 และ 14 ที่ผ่านมา ประมาณ 12 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ย 169.50 เหรียญ (6,125 บาท) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,030 ล้านเหรียญ (73,404 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการขายหุ้นครั้งที่ 3 ในเดือนนี้ รวมมูลค่าทั้งหมด 6,000 ล้านเหรียญ (216,759 ล้านบาท)
แอมะซอนได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2023 พร้อมเปิดเผยแผนการขายหุ้นของเบโซสในจำนวน 50 ล้านหุ้น ซึ่งอยู่ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง โดยเริ่มขึ้นตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2023 และจะเสร็จสิ้นภายใน 31 มกราคม 2025
ในเดือนนี้ เบโซสได้ขายหุ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 – 8 ประมาณ 12 ล้านหุ้น มูลค่า 2,080 ล้านเหรียญ (75,101 ล้านบาท) และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 และ 12 ได้ขายอีกประมาณ 12 ล้านหุ้น ซึ่งการขายหุ้นในเดือนนี้จัดว่าเป็นการขายหุ้นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เขาก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของแอมะซอนเมื่อพฤษภาคม 2021 โดยไม่นับการขายหุ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 มูลค่า 240 ล้านเหรียญ (8,668 ล้านบาท) ซึ่งเป็นของขวัญให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
เดือนพฤศจิกายน 2023 เบโซสเผยว่าจะย้ายออกจากซีแอตเทิลไปยังไมอามีบ้านที่อยู่ตอนเด็ก เพื่ออยู่ใกล้ชิดพ่อ แม่ และลอเรน (Lauren) แฟนสาวของเขา รวมทั้งบริษัทอวกาศ Blue Origin ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการย้ายที่อยู่ของเขาจะช่วยให้ประหยัดภาษีจากการขายหุ้นได้หลายร้อยล้านเหรียญ
ปัจจุบัน เจฟฟ์ เบโซส เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 3 ของโลกจากดัชนีของ Forbes ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 191,400 ล้านเหรียญ (6,911,549 ล้านบาท) โดยถือครองหุ้นในแอมะซอนลดลงเหลือ 952.26 ล้านหุ้นจาก 976.25 ล้านหุ้น
ที่มา : cnbc.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส