วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวบลูกเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวคนวงในว่า ฝ่ายบริหารของไบเดนหรือรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพูดคุยเจรจาเพื่อให้เงินอุดหนุนมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านเหรียญ (358,210 ล้านบาท) แก่บริษัทอินเทล (Intel) ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการสนับสนุนเงินกู้และเงินทุนช่วยเหลือตามกฎหมายสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (CHIPS Act)
กฎหมายสนับสนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (CHIPS and Science Act) มีชื่อย่อว่า CHIPS Act เป็นกฎหมายที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ออกมาเพื่อระดมเงินทุนประมาณ 280,000 ล้านเหรียญ (10,029,880 ล้านบาท) เพื่อส่งเสริมการวิจัยและการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลจะให้เงินอุดหนุนและเครดิตภาษีสำหรับต้นทุนการผลิต การสร้างโรงงาน การวิจัยและฝึกอบรมแรงงาน สำหรับสร้างห่วงโซ่อุปทานในการผลิตชิป
จนถึงตอนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้ให้เงินทุนสนับสนุน CHIPS Act จำนวนย่อม ๆ ไปแล้ว 2 ทุน และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จีน่า ไรมอนโด (Gina Raimondo) รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่ากระทรวงกำลังวางแผนให้เงินทุนอีกหลายรางวัลรวมมูลค่า 39,000 ล้านเหรียญ (1,397,019 ล้านบาท) เพื่อส่งเสริมในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
ก่อนหน้านี้ อินเทลได้มีแผนสร้างโรงงานผลิตชิปในรัฐแอริโซนา และนิวเม็กซิโก ด้วยเงินทุนมูลค่าหลายหมื่นล้านเหรียญ (ล้านล้านบาท) และจะเปิดโรงงานแห่งใหม่ในโอไฮโอ แต่ล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีรายงานว่าอินเทลมีแผนจะชะลอการสร้างโรงงานในโอไฮโอออกไปก่อนจนถึงปี 2026 เนื่องจากการชะลอตัวของตลาดเซมิคอนดักเตอร์และการให้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่ล่าช้า
ตอนนี้ยังมีบริษัทที่กำลังรอเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น TSMC ที่ได้สมัครขอรับเงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตชิปในแอริโซนาที่ล่าช้า ส่วน Micron และ Samsung ซึ่งกำลังสร้างโรงงานชิปแห่งใหม่ในสหรัฐฯ ก็ได้ส่งใบสมัครเพื่อขอการสนับสนุนเงินทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
ที่มา : reuters.com
***