ทราวิส คาลานิค (Travis Kalanick) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Uber ได้ก้าวลงจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของบริษัทแล้ว แต่ยังดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการของบริษัทอยู่
ไมค์ ไอแซค (Mike Isaac) จาก New York Times รายงานว่า ทราวิส คาลานิค ต้องพบกับแรงต่อต้านมากมายจากผู้ถือหุ้น โดย Benchmark บริษัทร่วมรายใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แสดงความประสงค์ชัดเจนว่าต้องการให้ ทราวิส คาลานิค ลาออกในทันที
ทราวิส คาลานิค ได้กล่าวในถ้อยแถลงเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 21 มิถุนายน 2017 ว่า
“ผมรัก Uber มากกว่าอะไรในโลก และนี่เป็นช่วงเวลาที่ทำใจได้ยากที่สุดในชีวิตของผมที่ได้ยอมก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอตามคำเรียกร้องของนักลงทุน เพื่อที่ Uber จะได้กลับไปสร้างตลาดใหม่มากกว่าที่จะต้องวุ่นวายต่อสู้กับฝ่ายอื่นอีก”
การลาออกของ ทราวิส คาลานิค ในครั้งนี้ มีเหตุมาจากปัญหารุมเร้ามากมายที่เกิดาขึ้นภายในบริษัท ซึ่งเริ่มต้นจากบล็อกที่อดีตวิศวกรหญิงคนหนึ่งที่ออกมาเปิดเผยว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศภายในบริษัท อีกทั้งฝ่ายบุคคลก็เมินเฉยต่อคำร้องของเธอและขู่จะไล่เธอออก
จากนั้น Uber ก็ถูกร้องเรียนมากกว่า 215 ครั้ง เกี่ยวกับการทำงานภายในบริษัท ดังนี้
- การเหยียดเพศ : 54 ครั้ง
- การล่วงเลิดทางเพศ : 47 ครั้ง
- พฤติกรรมที่ไม่เป็นมืออาชีพ : 45 ครั้ง
- การถูกกลั่นแกล้ง : 33 ครั้ง
- การข่มขู่ : 19 ครั้ง
- การตอบโต้ แก้แค้น : 13 ครั้ง
- ความปลอดภัยทางด้านร่างกาย : 3 ครั้ง
- การเลิกจ้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย : 1 ครั้ง
ข้อมูลอ้างอิง : businessinsider