ยุคของ 5G ได้มาถึงแล้ว และ AI ได้กลายมาเป็นเทคโนโลยีเอนกประสงค์ตัวใหม่ การพัฒนานวัตกรรมจึงเกิดขึ้นได้อย่างไม่รู้จบ และมนุษยชาติก็จะเดินหน้าพัฒนาต่อไป โดยมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน โลกอัจฉริยะในอนาคตจะเป็น “Digital Village หรือ หมู่บ้านดิจิทัล” ที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงทุกคนถึงกันอย่างใกล้ชิด
สำหรับงานปีนี้ หัวเว่ยใช้ธีม “สร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ” โดยโถงนิทรรศการหลักของหัวเว่ยในฮอลล์ 1 ซึ่งออกแบบตามแนวคิด “Digital Village – หมู่บ้านดิจิทัล” แสดงถึงการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับวัฒนธรรม โดย “Digital Village” จะเป็นแพลตฟอร์มที่นำผู้มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมและผู้นำทางความคิดทั่วโลกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับอุปสรรคความท้าทายและโอกาสที่โลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบจะนำมาสู่มวลมนุษยชาติ
จนถึงขณะนี้หัวเว่ยได้ลงนามในสัญญา 5G เชิงพาณิชย์กับโอเปอเรเตอร์ทั่วโลกแล้วกว่า 30 ฉบับ และจัดส่งสถานีฐาน 5G ไปแล้วกว่า 40,000 ชุด โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถเริ่มให้บริการ 5G และส่งมอบประสบการณ์คุณภาพสูงของ 5G แก่ผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว และ Huawei ยังเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมที่เปิดตัวชิพและดีไวซ์ 5G เชิงพาณิชย์ และได้ประสานงานกับอุตสาหกรรมเพื่อผลักดันให้ 5G เติบโตและเกิดการให้บริการเชิงพาณิชย์ หัวเว่ยได้สาธิตการถ่ายทอดสดด้วยภาพวิดีโอที่มีความละเอียดสูงระดับ 8K บนเครือข่าย 5G ของ Vodafone Spain และแอพลิเคชั่นใหม่ๆ เช่น Cloud VR, เกมบนคลาวด์ และคลาวด์พีซี
โอเปอเรเตอร์หลายรายในยุโรป รวมถึง Vodafone ได้ประกาศว่าเครือข่าย 5G พร้อมแล้วสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ และหัวเว่ยยังได้เซ็นสัญญา 5G กับโอเปอเรเตอร์อีกหลายรายจากทั่วโลก และหัวเว่ยยังนำเสนอแนวคิดสำหรับเครือข่ายการขับขี่อัตโนมัติ รวมไปถึงโซลูชั่น SoftCOM AI ครอบคลุมสำหรับทุกสถานการณ์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ประสิทธิภาพเครือข่าย ประสิทธิภาพ O&M และประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างมีนัยสำคัญ โซลูชั่น SoftCOM AI ช่วยให้เกิด “0 บิต, 0 วัตต์” และการปรับเปลี่ยน Beam แบบปรับได้เป็นจริงได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณค่าของเครือข่ายโทรคมนาคมได้มากที่สุด
หัวเว่ยกำลังสร้างสรรค์เครือข่าย บริการ และรูปแบบธุรกิจอย่างแข็งขัน โดยทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อกำหนดรูปแบบธุรกิจและขอบเขตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมใหม่ เพื่อช่วยให้โอเปอเรเตอร์ประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ด้วยโซลูชั่นด้านธุรกิจใหม่ รวมถึงบริการคลาวด์ IoT บริการเคลื่อนที่ส่วนบุคคล บรอดแบนด์บ้านระดับพรีเมียมห้าดาว และการผนวกรวมของเครือข่ายและคลาวด์
หัวเว่ยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรต่างๆ ในอุตสาหกรรม และมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายในอนาคต ความปลอดภัยบนไซเบอร์ นโยบายด้านความมั่นคง และมาตรฐานต่างๆ ที่เน้นอุตสาหกรรมแนวตั้ง อีกทั้งเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์โทรคมนาคมเพียงหนึ่งเดียวและรายเดียวของโลกที่ได้ผ่านการตรวจสอบและผ่านมาตรฐานระดับสูงสุดแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าหัวเว่ยสามารถที่จะรังสรรค์ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มากกว่าให้กับลูกค้า
ในงานปีนี้ หัวเว่ยกำลังค้นหากลไกด้านความปลอดภัยบนไซเบอร์และมาตรฐานต่างๆ ที่เหมาะกับยุโรป โดยจัดงานฟอรั่มและประกาศความร่วมมือกับองค์กรอุตสาหกรรมสำคัญๆ เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือที่เป็นธรรมเปิดกว้าง เชื่อถือได้ และปลอดภัยทั่วทั้งอุตสาหกรรม
ปีนี้ยังเป็นครั้งแรกที่กลุ่มธุรกิจทั้งสามกลุ่มของหัวเว่ย อันได้แก่ กลุ่มโทรคมนาคม กลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ และกลุ่มคอนซูเมอร์ ได้เข้าร่วมงาน MWC โดยกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ระดับสี่ดาว ได้แก่ Flash Storage OceanStor Dorado ที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรม, สวิตช์ดาต้าเซ็นเตอร์ ตัวแรกของโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI, Access Point Wi-Fi 6 เพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก และกล้อง X – ซีรีย์ กล้องที่ควบคุมโดยซอฟต์แวร์ AI ตัวแรกของโลก ในขณะที่กลุ่มคอนซูเมอร์จะจัดแสดงอุปกรณ์ยอดนิยมต่างๆ และเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G แบบพับได้เครื่องแรกของโลกอีกด้วย