โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยว่า ประเด็นเรื่องหัวเว่ยจะเป็นส่วนหนึ่งในการเจรจาหาข้อยุติทางการค้ากับจีนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ทรัมป์ยังระบุว่า ‘หัวเว่ยคือบริษัทที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ’ ขณะที่ทางการจีนโต้ตอบกลับว่ารัฐบาลสหรัฐฯ พยายามกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม

‘หัวเว่ยเป็นอะไรที่อันตรายมากสำหรับความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งในแง่มุมความปลอดภัยหรือแง่มุมกองทัพ มันอันตรายมาก ๆ’ 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ เพิ่งออกคำสั่งพิเศษลิสต์หัวเว่ยอยู่ในบัญชีดำ โดยห้ามไม่ให้ทำธุรกิจกับบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันนอกเหนือจากต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อน แต่ทว่าล่าสุด ผู้นำวัย 72 ปีได้ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่หัวเว่ยจะเป็น 1 ในประเด็นที่ถูกนำไปเจรจาทางการค้ากับจีนเช่นกัน

สถานการณ์ของหัวเว่ยตอนนี้เรียกได้ว่าเจ็บตัวไม่น้อยเลย โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่หัวเว่ยถือสัญญาข้อตกลงเตรียมไปวางเครือข่าย 5G ให้ ซึ่งมีประเทศแถบยุโรปอยู่ถึง 20 กว่าประเทศ เนื่องจากเกิดความวิตกกังวลว่าอุปกรณ์เครือข่ายของหัวเว่ยจะมีการส่งข้อมูลกลับไปให้รัฐบาลจีน ขณะที่หัวเว่ยก็ยืนยันว่าอุปกรณ์ของพวกเขาไม่มีการเชื่อมโยงกับรัฐบาลอย่างแน่นอน

“การตอบสนองที่ดีที่สุดจากกรณีที่สหรัฐฯ พยายามกลั่นแกล้งก็คือ มันทำให้บริษัทไอทีจีนยิ่งโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น” Gao Feng โฆษกกระทรวงพาณิชย์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งอนุมัติงบ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมทั้งเมื่อต้นเดือนก็ออกมาตรการเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนจาก 10% ไปเป็น 25% หลังจากที่การเจรจาการค้าครั้งล่าสุดกับจีนล้มเหลว

ทางด้านรัฐบาลจีนก็มีมาตรการตอบโต้ทันควันด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ 6 หมื่นล้านเหรียญฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน รวมทั้ง Gao Feng รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ได้ออกมายื่นเงื่อนไขว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการจะเจรจาการค้ากับจีนต่อก็ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบและแก้ไขข้อครหาที่กล่าวหาทั้งหมด

bbc