หากใครยังจำกรณีที่บริษัทวิจัยข้อมูล Cambridge Analytica ได้ทำการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานมากกว่า 87 ล้านยูสเซอร์ เพื่อช่วยในการทำข้อมูล แคมเปญหาเสียงเลือกตั้งให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2016 ได้ ล่าสุดนี้ ก็ดูเหมือนทางคณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือย่อว่า FTC) จะตกลงปลงใจเคาะบทลงโทษกันออกมาได้ในที่สุด ซึ่ง Facebook จำต้องถูกปรับเป็นเงิน 5 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 155,000 ล้านบาท โทษฐานที่ไม่สามารถป้องกันข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานได้

ภาพอธิบายวิธีการที่ Facebook จะต้องมีมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานตามข้อตกลงของ FTC

FTC ได้สรุปบทลงโทษดังกล่าว ในวันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2019 ที่ผ่านมา โดยนอกจากที่ทาง Facebook จะต้องจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนมากโขแล้ว พวกเขายังจำต้องต้องตั้งคณะกรรมการดูแลเรื่องการจัดการข้อมูลในบริษัทอีกด้วย ซึ่งคณะกรรมการดูแลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลนี้ จะต้องมาจากคณะกรรมการอิสระที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการอิสระอีกทีและต้องถอดอำนาจการตัดสินใจออกจาก Mark Zuckerberg เพื่อไม่ให้มีการตัดสินใจที่มีผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยกรรมการจะถูกปลดได้ก็ต้องมาจากเสียงส่วนใหญ่ของบอร์ดผู้บริหารของ Facebook เท่านั้น

อีกทั้งทาง FTC ยังมีข้อเรียกร้องอีก 6 ข้อด้วยกัน ดังนี้

  1. ต้องเพิ่มความระมัดระวังในแอปพลิเคชันที่เชื่อมกับองค์กรนอก (third-party apps)
  2. ห้ามใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือของผู้ใช้งานเพื่อใช้เป็นวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาและความปลอดภัย
  3. แจ้งผู้ใช้งานให้ชัดเจนทุกครั้ง เมื่อจะต้องมีการใช้ฟีเจอร์ตรวจจับใบหน้า (Facial Recognition)
  4. ติดตั้งและดูแลระบบที่ช่วยป้องกันความปลอดภัยด้านข้อมูล
  5. ต้อง Encypt (แปลงข้อมูลให้เป็นรหัสลับ ซึ่งในที่นี้คือแปลงพาสเวิร์ดของผู้ใช้ให้กลายเป็นรหัสลับนั่นเอง) พาสเวิร์ดของผู้ใช้งาน และช่วยสแกนหาพาสเวิร์ดที่อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงหรือเก็บไว้ในรูปแบบข้อความ (plain-text format)
  6. แบนบริการที่ถามไถ่ถึงพาสเวิร์ด อีเมลของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก

ที่มา: Facebook Newsroom, Business insider

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส