จบไปสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับงาน WWDC 2020 คืนแรก ภายในงานมีอะไรที่น่าสนใจเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น iOS14, iPadOS14, macOS 11 Big Sur (สังเกตว่ารุ่นเปลี่ยนไป 11 แล้วนะ) และอีกมากมาย
Apple ประกาศที่จะเริ่มพัฒนาชิปเซ็ตประมวลผลของตัวเองในชื่อ “Apple Silicon” ซึ่งตั้งใจที่จะนำชิปประมวลผล Apple A series ในปัจจุบันมาใช้งานบนเครื่อง mac ทั้งหลาย เช่น MacBook Air, MacBook Pro, Mac Mini และ iMac

เป็นเหตุผลมาจากที่ว่า Apple ผลิตชิปเซ็ตแบบ ARM ให้กับ iPhone มาตลอด และก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพ ณ ปัจจุบัน จึงเล็งเห็นว่าการพัฒนาชิปเซ็ตของตนเองมาใช้ใน product ของตัวเองอย่าง Mac devices เพิ่มอีกน่าจะเป็นสิ่งที่ดี เหมือนกับที่เคยพัฒนาชิป A5X มาใช้กับ iPad ในรุ่นแรก

โดยแรกเริ่มจะเริ่มนำชิป Apple A12Z ที่ใช้งานบน iPad Pro 2020 มาให้ทดสอบบน Mac Mini เวอร์ชัน Developer Transition Kit กันก่อน ซึ่งมีราคาค่ายืมอยู่ที่ราว ๆ 15,000 บาท (500 USD) โดยจะเปิดให้ยืมในบางประเทศเท่านั้น มีความจุแรม 16GB พื้นที่ความจำแบบ SSD ความจุ 512GB พร้อมติดตั้ง macOS Big Sur ตัว Developer beta ซึ่งผู้ซื้อสามารถเข้าถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องและฟอรัมนักพัฒนาได้ โดยจะต้องคืนเครื่องหลังจบโครงการ


ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจตรงจุดนี้คือ Mac เวอร์ชันชิปเซ็ต ARM จะสามารถรันแอปจาก iPhone และ iPad ได้เลย โดยไม่ต้องพอร์ตตัวแอปให้ยุ่งยากผ่าน Catalyst แล้ว เป็นการขยับพื้นที่ของอุปกรณ์ทั้งสองเข้าด้วยกันจนแนบสนิทเลยทีเดียว

และถ้าหากห่วงเรื่องประสิทธิภาพว่าจะเทียบกับชิปเซ็ตของ Intel ได้หรือไม่ Apple ยืนยันเรื่องประสิทธิภาพที่สูงกว่าชิปของ Intel หลาย ๆ ระดับเสียอีก ซึ่งแน่นอน Mac ที่ใช้งานชิป Apple Silicon นั้นสามารถตัดต่อวิดีโอ 4K ได้สบาย ๆ, งาน 3D ก็ไม่ต้องห่วง และการเรนเดอร์ภาพต่าง ๆ ทำได้ลื่นไหลไม่มีปัญหาอะไร
สุดท้ายยังนำเกมเพลย์ของเกม Shadow of The Tomb Raider มาเล่นบนเครื่อง Mac Mini ที่ใช้ Apple A12Z อีกต่างหาก ก็พอจะพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าชิปเซ็ตของเขาแรง และมีประสิทธิภาพขนาดไหน

ส่วนเรื่องความเข้ากันได้ของโปรแกรมต่าง ๆ Apple บอกว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาที่จะพัฒนานำมาลง และ ณ ขณะนี้ได้ร่วมมือกับ Microsoft และ Adobe เพื่อนำโปรแกรมเครื่องมือที่นิยมใช้กันในปัจจุบันมาพัฒนาใช้งานบนชิปเซ็ต Apple Silicon ให้ได้
และเคลมว่าการพัฒนาเป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาใด ๆ (ถาม Devs หรือยัง) พร้อมโชว์ศักยภาพโปรแกรมต่าง ๆ ของ Adobe บนชิปเซ็ต A12Z ด้วยการตัดต่อวิดิโอ 4K แบบลื่น ๆ




อย่างไรก็ตาม Mac Devices ที่ใช้งานชิปเซ็ตแบบ ARM หรือ Apple Silicon จะยังใช้พัฒนาอีกอย่างน้อย 2 ปี และจะเริ่มปล่อย Developer Transition Kit ให้เหล่าผู้พัฒนานำไปใช้พัฒนาโปรแกรมของตนเองสิ้นปีนี้ ผู้ใช้อย่างเรา ๆ ก็ต้องอดใจกันหน่อยนะครับ
สรุปข่าวจาก WWDC 2020
- Apple เปิดตัว iOS 14 ยังชื่อเดิม เพิ่ม Widgets, Picture-in-Picture และอื่น ๆ
- เปิดตัว iPadOS 14 เพิ่มลูกเล่นให้ Photos, ปรับปรุงการแสดงผล สามารถแปลงลายมือเป็นพิมพ์ได้
- สรุปไฮไลต์เทคโนโลยีเด็ด ๆ ที่เปิดตัวในคีย์โน้ตงาน WWDC20
- AirPods อัปเกรดยกโรงหนังมาอยู่ที่หู เปลี่ยนการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ให้ง่ายขึ้น
- รายชื่อ iPhone และ iPad ที่ได้ไปต่อใน iOS 14 และ iPadOS 14
ที่มา: Apple
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส