ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่สหรัฐอเมริกาที่ระวังเรื่องความปลอดภัยจากอุกรณ์โครงข่ายของจีนอย่าง Huawei แต่ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลของไต้หวัน Audrey Tang กล่าวว่าการใส่อุปกรณ์จีนในโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมหลักของประเทศนั้นคล้ายกับการเชิญม้าโทรจันเข้าสู่เครือข่ายของประเทศ
“ไม่มีสิ่งใดที่มีความส่วนตัวอย่างแท้จริงในบริษัทของประเทศจีน ด้าน PRC ผู้นำของประเทศสามารถเปลี่ยนหัวเรือของบริษัทได้ทุกเมื่อหากสถานการณ์มีความรุนแรง หากคุณนำอุปกรณ์โครงข่าย 5G ของจีนมาติดตั้งเป็นโครงสร้างพื้นฐาน คุณจะต้องอัปเดตระบบอย่างระมัดระวังทุกครั้ง เพราะอาจทำให้เครือข่ายเกิดความเสี่ยงต่อการนำม้าโทรจันเข้ามาได้” Audrey Tang กล่าว (PRC คือ People’s Republic of China หรือ สาธารณรัฐประชาชนจีน)
ระหว่างที่โลกกำลังถกเถียงว่าจะใช้อุปกรณ์โครงข่ายของจีนเข้ามาเป็นโครงสร้างพื้นฐานดีหรือไม่ แต่เราได้ทำเช่นนั้นตั้งแต่ยุค 4G แล้ว – Audrey Tang
ไต้หวันเป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย (ที่จีนมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของตนเอง) ได้เล็งเห็นความเสี่ยงที่จะใช้อุปกรณ์โครงข่ายของบริษัทจีนอย่าง Huawei และ ZTE มา 6 ปีแล้ว โดยในตอนนั้นทั้งสองบริษัทยังไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าไหร่นัก
ในปี 2014, Tang ได้ช่วยจัดทำระบบสำหรับถ่ายทอดสดให้กับผู้ประท้วงที่เรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างพระราชบัญญัติการค้ากับประเทศจีน โดยในปีนั้นเองเป็นปีที่ไต้หวันเริ่มเปิดให้บริการโครงข่าย 4G โดย Tang เล่าว่าคณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติได้ฟังความต้องการของนักเคลื่อนไหวที่ไม่ต้องการใช้อุปกรณ์โครงข่ายของประเทศจีน
Chunghwa Telecom ผู้ให้บริการเครือข่ายในไต้หวันได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเปิดตัวบริการเชิงพาณิชย์บนเครือข่าย 5G เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนโดยใช้อุปกรณ์โครงข่ายและเทคโนโลยีของ Ericsson
“เรารู้สึกยินดีที่เห็นว่าขณะนี้ประเทศต่าง ๆ เช่นสหรัฐอเมริกากำลังมีการหารือเพื่อประเมินความเสี่ยงจากการใช้อุปกรณ์โครงข่ายของจีน” Tang กล่าว
อ้างอิง Nikkei
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส