สำนักข่าวท้องถิ่น tele ของบราซิลนำเสนอว่า Huawei ได้เชิญ Michel Temer อดีตประธานาธิบดีของบราซิลคนที่ 37 ในฐานะศาสตราจารย์ด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญเข้ามาเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อให้บริษัทสามารถเข้าสู่การประมูลเครือข่าย 5G ในต้นปีนี้
นอกจากนี้มีการสันนิษฐานว่าการช่วยเหลือของ Temer ให้กับ Huawei ไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องการเตรียมข้อมูลต่อสู้ทางกฎหมายเท่านั้น แต่เขามีเครือข่ายทางการเมืองและบุคคลที่มีอิทธิพลต่อหน่วยงานโทรคมนาคมของบราซิลอีกด้วย
ปี 2020 ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในหลายประเทศได้เริ่มอัปเกรดและติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายเป็น 5G แต่ก็เกิดความล่าช้าเมื่อมีความกังกลเกี่ยวกับภัยต่อความมั่นคงของชาติที่ Donald Trump ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อ้างว่าอุปกรณ์ของ Huawei (ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุด) เป็นช่องทางในการสอดแนมให้กับหน่วยข่าวกรองของจีน
เดือนธันวาคมมีข่าวลือวว่า Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีของบราซิลกำลังพิจารณาหาวิธีแยกอุปกรณ์ของ Huawei ออกจากเครือข่าย 5G ในบราซิลตามคำอ้างของ Trump แต่ก็ต้องเผชิญกับแรงต้านจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในบราซิลในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และรองประธานาธิบดี Hamilton Mourão ก็แย้งว่าจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการค้ากับรัฐบาลจีน
สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวลือว่า Bolsonaro ยอมเปลี่ยนใจไม่สั่งห้ามการใช้อุปกรณ์ของ Huawei ในเครือข่าย 5G ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่อยากให้ภาคอุตสาหกรรมแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงและที่สำคัญคือการสิ้นสุดตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ Donald Trump
รัฐบาลบราซิลพึ่งได้เริ่มฉีดวัคซีน CoronaVac เพื่อป้องกัน COVID-19 ให้กับประชาชน แต่ล่าสุดต้องหยุดเครื่องจักรการผลิตวัคซีน CoronaVac ลงเนื่องจากขาดวัตถุดิบที่ต้องรอนำเข้าจากจีน
สรุปง่าย ๆ ว่าเมื่อดูทิศทางลมแล้วเริ่มเห็นชัดขึ้นว่าบราซิลต้องพึ่งพาจีนเรื่องวัคซีนและรักษาผลประโยชน์ไม่ให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมต้องแบกต้นทุนค่าอุปกรณ์ที่สูง อีกทั้งถ้ามีเหตุผลทางข้อกฎหมายก็เชื่อได้ว่า Huawei จะสามารถอยู่ในเครือข่าย 5G และตลาดโทรคมนาคมของบราซิลต่อไปได้
ที่มา : zdnet, canaltech, telesintese และ canaltech
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส