วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม Pat Gelsinger ผู้บริหารของอินเทลได้เผยในระหว่างการเยือนอิสราเอลว่ามีแผนจะลงทุนขยายศักยภาพในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ให้กับเทคโนโลยีรถยนต์ขับขี่ด้วยตัวเอง Mobileye ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มด้วยงบมูลค่า 400 ล้านเหรียญ (12,481 ล้านบาท) และสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา IDC12 ที่เมืองไฮฟาทางตอนเหนือของอิสราเอลด้วยงบ 200 ล้านเหรียญ (6,240 ล้านบาท) รวมทั้งจะสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ด้วยงบ 10,000 ล้านเหรียญ (312,045 ล้านบาท)
การเยือนอิสราเอลเกิดขึ้นหลังจากการตระเวนทัวร์ยุโรปที่มีทั้งเยอรมนีและเบลเยียมเพื่อวางแผนตั้งโรงงานงานผลิตแห่งชิปใหม่รองรับการผลิตชิปให้กับลูกค้าภายนอกแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำที่อยู่ในเอเชีย คือ TSMC ของไต้หวันและ Samsung ของเกาหลีใต้
กลางเดือนเมษายน อินเทลได้ประชุมกับทำเนียบขาวและประกาศจะช่วยผลิตชิปให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐฯ ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนชิป เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่สามารถกดดันให้ TSMC และ Samsung ช่วยผลิตชิปให้กับผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ ได้มากขึ้น
เดือนมีนาคม Intel ประกาศสร้าง 2 โรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ในแอริโซนา ซึ่งจะเดินหน้าธุรกิจโรงงานผลิตชิป ARM และชิปอีกหลายประเภทให้กับตลาด และกำลังพัฒนาชิป 7nm ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความมั่นคงของชิปให้กับสหรัฐฯ
ปัจจุบันอินเทลมีโรงงานผลิตชิปหรือโรงหล่อ Fab 28 ในอิสราเอลอยู่ที่ Kiryat Gat ด้วยขนาด 10 nm จึงไม่แน่ใจว่าโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่จะใช้ขนาด 7nm เหมือนในแอริโซนาหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ กระทรวงการคลังของอิสราเอลเผยเมื่อต้นปี 2019 ว่าจะทุ่มเงิน 1,000 ล้านเหรียญ (31,205 ล้านบาท) ให้แก่อินเทลสำหรับสร้างโรงงานมูลค่า 11,000 ล้านเหรียญ (343,260 ล้านบาท) เพราะอินเทลเป็นแหล่งจ้างงานที่ใหญ่ที่สุดมีคนงานเกือบ 14,000 คน
เชื่อว่าการเยือนยุโรปและอิสราเอลของอินเทลจะมีการเจรจาเกี่ยวกับความมั่นคงของชิปที่พยายามลดการพึ่งพาผู้ผลิตในเอเชียแล้วหันมาสนับสนุนคนกันเองในสหรัฐฯ และการตั้งโรงงานจะช่วยสร้างงานในท้องถิ่นส่วนอินเทลอาจจะได้รับการสนับสนุนในเรื่องการเปิดทางเกี่ยวกับที่ดิน กฎระเบียบ ส่วนลดภาษีหรือเงินทุน ซึ่งจะเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย
ที่มา : reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส