5G มีความเร็วมากกว่าเทคโนโลยี Wireless ในปัจจุบันถึง 100 เท่า ด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อนี้ส่งผลให้ 5G สามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในอดีต ซึ่งได้มีการทดลองใช้เทคโนโลยีนี้กันแล้วภายในงาน Mobile World Congress 2016 ที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน และได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม
“5G จะยกระดับเทคโนโลยีขึ้นไปอีก” Cristiano Amon ประธานบริษัท Qualcomm กล่าวภายในงาน Mobile World Congress “มันจะเป็นการเชื่อมต่อที่ใช้กันอย่างแพร่หลายกับอุปกรณ์เคลื่อนที่และมือถือทั่วโลก”
แต่อย่างเพิ่งดีใจกับเสียงชื่นชมที่มีต่อ 5G ในตอนนี้ เพราะเราจะยังไม่ได้ใช้ 5G กับอุปกรณ์มือถือจนกว่าจะถึงปี 2018 และจะเริ่มให้บริการในวงกว้างภายในปี 2019 แต่ด้วยรายละเอียดและประสบการณ์จากผู้ใช้ที่ได้รับมา เราสามารถคิดถึงสิ่งที่จะตามมาได้หาก 5G เริ่มให้บริการจริง
1. ประสบการณ์การเล่นเกมแบบใหม่
เราสามารถเล่นเกมแบบ Multiplayer กับเพื่อนจากสถานที่ต่างๆทั่วโลกผ่านอุปกรณ์ VR ด้วย ได้พร้อมกันด้วยความเร็วระดับ 5G ที่สามารถสตรีมสัญญาณภาพและรายละเอียดต่างๆได้อย่างราบลื่น
นั่นคือสิ่งที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Facebook ได้กล่าวไว้ในงาน Mobile World Congress 2016 ว่า VR จะเป็นสุดยอดอุปกรณ์สำหรับ 5G ด้วยการส่ง/รับสัญญาณที่รวดเร็วมากในระดับที่คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ VR ผ่านอุปกรณ์มือถือได้อย่างสมจริงที่สุด อีกทั้งยังสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อที่เล่นเกมจากทั่วทุกมุมโลกไปพร้อมๆกันได้
2. รถยนต์ที่ขับเคลื่อนตัวเองได้
โครงข่าย 5G มีความเร็วมากพอจะรองรับการทำงานร่วมกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองในอนาคตได้ โดยรถดังกล่าวสามารถสื่อสารกลับมายังหน่วยควบคุมส่วนกลางเมื่อเจอกับเหตุกรณ์บนท้องถนน หรือมแม้กระทั่งสื่อสารกับรถยนต์คันอื่นๆได้
“ตั้งแต่มีการพัฒนาระบบเซ็นเซอร์และกล้องในรถยนต์ขึ้นมา มันก็สามารถเก็บภาพวิดีโอที่เกิดขึ้นจากภายในรถยนต์ได้เป็นอย่างดี” Marc Naddell รองประธานบริษัท MediaTek กล่าว “ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น คุณจะสามารถรับชมเหตุการณ์นั้นได้ทั่วทุกมุมมอง ไม่จากแค่รถยนต์ของคุณเท่านั้นเท่านั้น แต่มาจากรถยนต์คันอื่นๆบนท้องถนนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเช่นกัน”
3. การดูแลสุขภาพทางไกล
Telemedicine หรือ การรักษาโรคทางไกล จะเป็นไปได้ด้วย 5G โดยการเชื่อมต่อนั้นรวดเร็วมากพอที่เหล่าแพทย์จะให้คำแนะนำในการรักษาโรคหรือระหว่างการผ่าตัดจากทางไกลแก่แพทย์ในพื้นที่ชนบทได้” Matt Grob หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีของ Qualcomm กล่าว “ผู้ให้บริการโครงข่าย 5G สามารถตั้งค่าความเร็วในการสื่อสารทางการแพทย์ให้มากกว่าการรับชมวิดีโอบน Youtube สำหรับคนทั่วไปได้”
ด้วยความความเร็วในการส่งสัญญาณที่แทบจะเหมือนอยู่ในสถานที่เดียวกัน แพทย์สามารถใช้หุ่นยนต์ในการผ่าตัดผู้ป่วยที่อยู่หางออกไปกว่า 1,000 ไมล์ได้ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตชนบทอันห่างไกลจะไดัรับการดูแลจากผู้ชำนาญการได้ตลอด ไม่ว่าจะอยู่แห่งใดบนโลกก็ตาม
“คุณสามารถหาแพทย์ที่ดีที่สุดในโลกมารักษามะเร็งให้กับแม่ของคุณได้” ประธาน Kim แห่งบริษัท Samsung กล่าว “ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นไปไม่ได้เลยเมื่อหลายปีก่อน”
4. ประชุมทางไกลเหมือนอยู่ในห้องเดียวกัน
ประธาน Kim แห่ง Samsung เชื่อว่าการสื่อสารของเราจะเป็นแบบวิดีโอมากขึ้นในระดับที่คมชัดมากกว่าแต่ก่อน จนทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในสถานที่เดียวกัน แต่เทคโนโลยีโครงข่ายในปัจจุบันยังไม่สามารถส่งสัญญาณภาพแบบ Real Time ในระดับนั้นได้
5. เปิดเว็บเร็วเหมือนในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด
หากเราเคยชมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด เมื่อตัวละครเปิด Web Browser ข้อมูลต่างๆในการค้นหาแทบจะปรากฏขึ้นมาทันที ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นไปไม่ได้ Ulf Ewaldsson หัวหน้าด้านเทคโนโลยีของบริษัท Ericsson ได้กล่าวไว้ว่า “โดยปกติแล้ว Page จะต้องใช้เวลาในการโหลดข้อมูลประมาณ 1-2 วินาที เป็นอย่าง แม้แต่ในการเชื่อมต่อความเร็วสูงในปัจจุบันก็ตามที แต่ด้วย 5G ข้อมูลทุกอย่างจะปรากฏออกมาทันทีเหมือนในภาพยนตร์”
หรือถ้าหากเราต้องการดาวน์โหลดภาพยนตร์ความละเอียดสูงสักหนึ่งเรื่อง เราอาจใช้เวลาเพียง 15 วินาที ในขณะที่ 4G ต้องใช้เวลาถึง 6 นาที
ที่มา : cnet.com