อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าปัจจุบัน Huawei ไม่สามารถสั่งผลิตชิปประมวลผลเองได้เนื่องจากข้อจำกัดจากสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ซื้อชิป Snapdragon จาก Qualcomm ก็ยังไม่สามารถใช้ 5G ได้ ทำให้ Huawei P50 Pro รองรับเพียง 4G ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ Huawei ต้องลงทุนเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมชิปเซตในจีนให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
Huawei เริ่มลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ผ่านกองทุนที่เปิดตัวในปี 2019 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่สหรัฐอเมริกาเริ่มออกคำสั่งแบน Huawei โดยกองทุนของ Hubble Technology Investment Co. ได้สนับสนุนบริษัทมากมายถึง 56 แห่งเลยทีเดียว
ข้อมูลจาก PitchBook บริษัทวิจัยด้านการลงทุนระบุว่าการลงทุนด้วยเงินทุนเกือบครึ่งเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทต้องเร่งพัฒนาชิปเซตให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เมื่อเดือนที่แล้ว Huawei ระบุว่า ด้วยข้อจำกัดของสหรัฐฯ ส่งผลให้รายได้ของบริษัทหายไป 1 ใน 3 เลยล่ะครับ
ด้าน Huawei ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในครั้งนี้ แต่ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Tianyancha ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ติดตามการจดทะเบียนบริษัทในประเทศจีนระบุว่าด้วยเงินทุนของ Huawei เรียกว่าเลี้ยงบริษัทต่าง ๆ ได้อย่างสบายเลยครับ นอกจากนี้ Huawei ก็ยังได้ผลตอบแทนจากบริษัทต่าง ๆ ที่ลงทุนด้วย
นอกจาก Huawei แล้วก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ที่ลงทุนในลักษณะเดียวกันอย่าง Xiaomi Corp. , Oppo Mobile Telecommunications Corp. และ Lenovo Group Ltd. เป็นต้น
อ้างอิง WSJ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส