นักวิจัยความปลอดภัย นามว่า เฟลิกซ์ เคราซ์ (Felix Krause) เปิดเผยว่าพบโค้ดตัวหนึ่งในแอป TikTok ที่อาจทำให้บริษัทของ TikTok สามารถดูข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใช้กรอกลงในเว็บไซต์ที่ถูกเรียกขึ้นมาผ่านเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งในแอป
ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวนั้นรวมถึงพาสเวิร์ด และหมายเลขบัตรเครดิต และลิงก์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้คลิกผ่านเบราว์เซอร์ดังกล่าวด้วย
เขาได้กล่าวว่า “โค้ดนี้มีลักษณะการทำงานคล้ายกับ Keylogger ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ตรวจสอบว่าผู้ใช้กดปุ่มใดบนคีย์บอร์ดบ้าง แต่ยังสามารถระบุชัดเจนว่า TikTok นั้นใช้โค้ดหรือซอฟต์แวร์ในลักษณะนี้เพื่อเก็บขัอมูลผู้ใช้หรือไม่”
ทางด้าน TikTok นั้น ได้ออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับเก็บข้อมูลผู้ใช้มาอย่างต่อเนื่อง โดยย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไมเคิล เบ็กเคอร์แมน (Michael Beckerman) ซีอีโอของ TikTok America เคยกล่าวกับสำนักข่าว CNN ว่า “TikTok มิได้ใช้ซอฟต์แวร์ Logging แต่เป็นมาตรการป้องกันการหลอกลวงบนแพลตฟอร์มเพื่อตรวสอบจังหวะและวิธีการพิมพ์ของผู้คน เพื่อให้แน่ใจว่ามิใช่บอต (Bot) หรือเป็นการดำเนินกิจกรรมที่หลอกลวงผู้ใช้หรือไม่”
นอกจากนี้ เคราซ์ยังได้กล่าวว่า Apple สามารถเข้ามามีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหานี้ โดยเขาเชื่อว่าปัญหาด้านความปลอดภัยนี้จะลดลงถ้าหาก TikTok ใช้เบราว์เซอร์ Safari แทนการใช้เบราว์เซอร์ Third Party ที่ติดตั้งในแอปของตน
อย่างไรก็ดี Apple ยังมิได้แสดงความเห็นต่อรายงานนี้แต่อย่างใด
TikTok มิใช่แอปแรกที่ถูกกล่าวถึงในด้านการเก็บข้อมูลผู้ใช้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคราซ์ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า แอปโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ Instagram ของ Meta ได้มีการใส่โค้ดในแอป เพื่อให้สามารถติดตามข้อมูลผู้ใช้ผ่านการเปิดเบราว์เซอร์ที่ติดตั้งในแอปได้เช่นกัน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส