HMD ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟน 4G รุ่นใหม่ในชื่อ Nokia G22 ซึ่งมีจุดเด่นที่ผู้ใช้สามารถซ่อมเองได้ และมีความยั่งยืนเป็นรุ่นแรกในตลาด
Nokia G22 เป็นสมาร์ตโฟนที่ HMD ต้องการให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงออกแบบสมาร์ตโฟนที่สามารถซ่อมแซมหรือถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนด้วยตนเองได้อย่างง่ายดาย โดยอ้างอิงจากข้อมูลวิจัยมากมายที่ระบุว่าเหตุผลส่วนที่ผู้ใช้เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ตโฟนคือหน้าจอแตก
นั่นทำให้ Nokia G22 สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ 5 นาที ด้วยการใช้เครื่องมือง่าย ๆ เช่น เข็มจิ้มถาดซิม, ปิ๊กกีตาร์ หรือไขควง เป็นต้น รวมถึงสามารถถอดเปลี่ยนหน้าจอได้อย่างง่ายดาย ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 20 นาที ด้วยเครื่องพิเศษไม่กี่ชิ้นที่ HMD ออกแบบมาให้
Nokia G22 ได้รับการออกแบบให้ลดขั้นตอนการซ่อมแซมลง โดยไม่ต้องใช้ความร้อนในการถอดฝาหลัง และไม่จำเป็นต้องใช้แอลกอฮอล์เพื่อถอดแบตเตอรี่ออก อีกทั้ง Nokia ยังได้จับมือกับ iFixit ผู้ทดสอบความทนทานของสมาร์ตโฟนที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก สร้างเครื่องมือพิเศษ, หนังสือให้คำแนะนำการซ่อม และชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับใช้ในการถอดเปลี่ยนหน้าจอ, พอร์ตชาร์จไฟ หรือแบตเตอรี่
นอกจากนี้ผู้ใช้อาจนำ Nokia G22 ไปให้ศูนย์บริการที่รับการรับรองดำเนินการเปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าวก็ได้อีกด้วย
อีกสิ่งที่น่าประทับใจคือ ฝาหลังของ Nokia G22 นั้น ผลิตด้วยวัสดุพลาสติกรีไซเคิล 100% ในขณะที่ตัวบรรจุภัณฑ์นั้นใช้วัสดุที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC Mix ที่ผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิลเต็มรูปแบบ
สำหรับสเปกอื่น ๆ ที่น่าสนใจของ Nokia G22 มีดังนี้
- หน้าจอ 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+, รีเฟรชเรต 90 Hz, ป้องกันรอยด้วยกระจก Gorilla Glass 3
- ชิปเซต Unisoc T606, ความเร็วสูงสุด 1.6 GHz
- แรม 4 GB
- สตอเรจ 64/128 GB
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล (หลัก) + 2 ล้านพิกเซล (Macro) + 2 ล้านพิกเซล (เซนเซอร์วัดระยะ)
- แบตเตอรี่ 5,050 mAh, ชาร์จไฟ 20 W
- ระบบปฏิบัติการ Android 12, อัปเกรดต่อเนื่อง 2 ปี (ไปจนถึง Android 14), อัปเดตความปลอดภัยต่อเนื่อง 3 ปี
Nokia G22 ได้รับการวางจำหน่ายแล้ว โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 179 ยูโร (ประมาณ 6,600 บาท)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส