Xiaomi ประเทศไทยเปิดตัว Xiaomi 13 Series อย่างเป็นทางการ โดยจะมาในราคาเริ่มต้น 29,990 บาท ในรอบนี้มากับคอนเซ็ปต์ Behind the masterpiece เก็บทุกรายละเอียดอันน่าทึ่งของภาพถ่ายดียิ่งกว่าที่เคย โดยชูจุดเด่นเรื่องกล้องที่ไปร่วมมือกับแบรนด์กล้องชื่อดังอย่าง Leica ที่มีฟีเจอร์และจุดเด่นมากมายไม่ว่าจะเป็น UX/UI ของกล้องที่ใช้งานได้ง่าย หรือสไตล์การถ่ายภาพ Leica Authentic Look และ Leica Vibrant Look ที่จะช่วยถ่ายภาพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือลายน้ำพิเศษที่มีแค่ใน Leica เท่านั้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชิปเซตตัวใหม่ประจำเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 ตัวเร็วตัวแรง และให้ประกันตัวเครื่องนานถึง 2 ปี

Xiaomi 13

ในรุ่นธรรมดานั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED E6 ขนาด 6.36 นิ้ว รีเฟรชเรท 120 Hz รองรับ HDR10+ และมีการเจาะรูกล้องหน้าตรงกลาง ดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นจะมาพร้อมกับขอบเหลี่ยม โดยกระจกด้านหลังจะมีความโค้งรับเข้ากับตัวเครื่อง ทำให้รู้สึกจับได้ไม่เคืองมือมาก ในรุ่นนี้จะให้แบตมาที่ 4500 mAh พร้อมกับชาร์จเร็ว 67W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W

สเปกของ Xiaomi 13

  • หน้าจอ E6 AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรต 120Hz รองรับ HDR 10+ , Dolby Vision
  • ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 Octa-core รองรับ 5G
  • แรมขนาด 8/12GB (LPDDR5X)
  • หน่วยความจำขนาด 256GB (UFS4.0)
  • กล้องหลัง 3 ตัวที่ร่วมมือกับ Leica
    • กล้องหลักความละเอียด 54 ล้านพิกเซล (f/1.8)
    • กล้องถ่ายภาพ Ultra-Wide ขนาด 12 ล้านพิกเซล (f/2.2)
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (f/2.0)
  • กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.0)
  • แบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh
    • รองรับมาตรฐานการชาร์จไว 67W (1-100% ใน 38 นาที)
    • รองรับมาตรฐานการชาร์จไวแบบไร้สาย 50W (1-100% ใน 40 นาที)
    • สามารถชาร์จให้อุปกรณ์อื่น 10W
  • ลำโพงคู่บริเวณด้านล่างและด้านบนของตัวเครื่อง รองรับ Dolby Atmos
  • น้ำหนัก 189 กรัม วัสดุขอบเครื่องเป็นอลูมิเนียม ฝาหลังเป็นกระจก มาใน 3 สี : สีดำ สีขาว และสีเขียว
  • รองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
  • มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Under Display Optical Fingerprint Scanner)
  • ซอฟต์แวร์ MIUI 14 (Based on Android 13)
  • ราคาเริ่มต้น 29,990 บาท 

Xiaomi 13 Pro

ในรุ่น Xiaomi 13 Pro นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอ E6 LTPO AMOLED ขอบโค้ง ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ รองรับอัตรารีเฟรชเรทตั้งแต่ 1-120 HZ ในขณะเดียวกันดีไซน์ของขอบเครื่องก็จะมีความโค้งมนรับมือมากกว่าตัว Xiaomi 13 รุ่นปกติ และจะใช้กล้องหลัก Sony IMX989 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Hyper Charge 120W ที่สามารถชาร์จเต็ม 100% ภายใน 19 นาที

สเปกของ Xiaomi 13 Pro

  • หน้าจอ E6 LTPO AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด 2K รีเฟรชเรต 1-120Hz รองรับ HDR 10+ , Dolby Vision
  • ชิปเซต Snapdragon 8 Gen 2 Octa-core รองรับ 5G
  • แรมขนาด 12GB (LPDDR5X)
  • หน่วยความจำขนาด 512GB (UFS4.0)
  • กล้องหลัง 3 ตัวที่ร่วมมือกับ Leica
    • กล้องหลักเซนเซอร์ Sony IMX989 เซนเซอร์ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.9)
    • กล้องถ่ายภาพ Ultra-Wide ขนาด 12 ล้านพิกเซล (f/2.2)
    • กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล (f/2.0)
  • กล้องหน้าขนาด 32 ล้านพิกเซล (f/2.0)
  • แบตเตอรี่ขนาด 4820 mAh
    • รองรับมาตรฐานการชาร์จไว 120W (1-100% ใน 19 นาที)
    • รองรับมาตรฐานการชาร์จไวแบบไร้สาย 50W (1-100% ใน 36 นาที)
    • สามารถชาร์จให้อุปกรณ์อื่น 10W
  • ลำโพงคู่บริเวณด้านล่างและด้านบนของตัวเครื่อง รองรับ Dolby Atmos
  • น้ำหนัก 229 กรัม วัสดุขอบเครื่องเป็นอะลูมิเนียม ฝาหลังเป็นเซรามิก มาใน 2 สี : สีดำและสีขาว
  • รองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
  • มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Under Display Optical Fingerprint Scanner)
  • ซอฟต์แวร์ MIUI 14 (Based on Android 13)
  • ราคาเริ่มต้น 39,990 บาท

โดยในงานนั้นไม่ได้มีแค่ Xiaomi 13 Series แต่ยังมีอุปกรณ์ AIoT มากมาย ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา Xiaomi Watch S1 Pro, หูฟัง Xiaomi Buds 4 Pro หุ่นยนต์ทำความสะอาดต่าง ๆ และกลอนประตูอัจฉริยะ อีกด้วย

นอกจากนั้น ในงานนี้ยังมี แบม ปีติภัทร คูตระกูล Talent ของทาง Beartai เป็นพิธีกรในการดำเนินงาน ครั้งนี้ด้วย

Xiaomi Watch S1 Pro

Xiaomi Watch S1 Pro มาพร้อมกับจอ AMOLED ขนาด 1.47 นิ้ว ที่ใช้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทำให้ทนต่อแรงขีดข่วนต่าง ๆ และยังมีหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกถึง 100 แบบ นอกจากนี้ยังอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้นานถึง 14 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

Xiaomi Watch S1 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ตัวเรือนสีเงินพร้อมสายหนังสีน้ำตาล และตัวเรือนสีดำพร้อมสายยางฟลูออโรสีดำ วางจำหน่ายในราคา 9,990 บาท

Xiaomi Buds 4 Pro

หูฟังไร้สาย Xiaomi Buds 4 Pro มาพร้อมกับเทคโนโลยี LDAC ของ Sony ที่มีอัตราการถ่ายโอนข้อมูลถึง 990kbps และความลึกสูงสุด 32 บิต รองรับ Hi-Res Audio Wireless นอกจากนี้ยังสามารถตัดเสียงรบกวนแบบแอ็กทีฟโดยมีความลึกสูงสุดถึง 48DB และมีฟีเจอร์ Dimension Audio ที่คอยตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะและปรับเสียงให้เหมาะสม ในด้านของอายุการใช้งานนั้น สามารถใชังานได้ต่อเนื่องสูงสุด 9 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รองรับการการกันน้ำกันฝุ่น IP54

Xiaomi Buds 4 Pro มีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีทอง Star Gold และ สีดำ Space Black วางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท

โปรโมชัน

  • สำหรับคนที่สนใจ Xiaomi 13 Series สามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันที่ 1-10 มีนาคม จะได้รับนาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Pro มูลค่า 9,990 บาท และ Xiaomi Leica Premium Set มูลค่า 1,999 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 11,989 บาท
  • Trade-In Trade-Up สามารถนำโทรศัพท์เครื่องเก่ามาแลกส่วนลดมูลค่าสูงสุด 3,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มีนาคม 2566
  • Special Event วันที่ 11 มีนาคม 2566 เมื่อซื้อ Xiaomi 13 Series ของแต่ละสาขาที่กำหนดผ่านการต่อคิว รับ Mi Smart Band 6 และ Xiaomi Leica Premium Set รวมมูลค่า 3,189 บาท
  • พรีออเดอร์กับผู้ให้บริการเครือข่ายต่าง ๆ Xiaomi 13 Pro ราคาเริ่มต้น 24,900 บาท และ Xiaomi 13 ราคาเริ่มต้น 18,900 บาท

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส