Xiaomi ได้จัดอีเวนต์ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ 13T ประกอบด้วย 13T และ 13T Pro ที่ดูคล้ายกับ Redmi K60 Ultra แต่ได้รับการอัปเกรดฮาร์ดแวร์กล้อง และรองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 (เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ T) และได้ชิปเซต Dimensity 8200-Ultra และ Dimensity 9200+ ซึ่งในประเทศไทย ได้เปิดราคาเริ่มต้นที่ 15,990 บาทเท่านั้น
Xiaomi 13T
Xiaomi 13T ได้รับการติดตั้งชิปเซต MediaTek Dimensity 8200-Ultra ที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับ Xiaomi โดยประมวลผลร่วมกับแรม LPDDR5 ขนาด 12GB และสตอเรจ UFS 3.1 ขนารด 256GB รวมถึงได้รับการติดตั้งหน้าจอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ ที่มีรีเฟรชเรตสูงถึง 144 Hz และความสว่างสูงสุด 2,600 Nit
ในส่วนของกล้องหลังนั้น ใช้เลนส์ Leica ทั้ง 3 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (f/1.9) เสริมด้วยกล้องซูม Portrait ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และกล้อง Ultrawide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ภาพ Leica Vibrant Look และ Leica Authentic Look ที่ช่วยปรับแต่งภาพได้อย่างมีศักยภาพสูงขึ้น และโหมด Pro เช่นเดียวกับ Xiaomi 13 Ultra
ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (f/2.2) พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W (Turbo Charge)


สเปกอื่น ๆ ที่น่าสนใจมีทั้ง แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ที่รองรับการชาร์จไฟ 67 W โดยสามารถชาร์จเต็ม 100% ใน 42 นาที, ติดตั้งลำโพงคู่ ระบบเสียง Dolby Atmos Audio และติดตั้งซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วย MIUI 14
Xiaomi 13T มีด้วยกัน 3 สี คือ สี Meadow Green และ Black ที่มาพร้อมฝาหลังผลิตจากวัสดุกระจก และสี Alpine Blue ที่ใช้วัสดุหนังเทียม BioComfort ในการผลิตฝาหลัง โดยในประเทศไทยวางจำหน่ายที่ราคา 15,990 บาทสำหรับความจุ 12GB + 256GB




ตัวอย่างเครื่องขายจริง
Xiaomi 13T Pro
Xiaomi 13T Pro ยังคงใช้แผงหน้าจอ OLED, กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50 + 50 + 12 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 5,000 mAh เช่นเดียวกับ Xiaomi 13T แต่มีความแตกต่างที่การถ่ายวิดีโอกล้องหลัง ที่สามารถถ่ายได้ความละเอียดมากสุดที่ 8K ในขณะที่ Xiaomi 13T สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ 4K เท่านั้น

นอกจากนั้นยังได้รับการอัปเกรดมาใช้ชิปเซต MediaTek Dimensity 9200+ ที่มีศักยภาพสูงขึ้น และสูงสุดของฝั่ง MediaTek ในตอนนี้ พร้อมด้วยแรม LPDDR5X ขนาด 12 และ 16 GB ที่มีความเร็วสูงขึ้น และสตอเรจ UFS 4.0 ขนาด 512GB และ 1 TB อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว HyperCharge ระดับ 120 W ซึ่งทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 5,000 มิลลิแอมป์จาก 0% – 100% ได้ใน 19 นาที โดยมีชิปเพื่อใช้ในระบบจัดการแบตเตอรี่ Xiaomi Surge รักษาคุณภาพแบตเตอรี่ให้ดี

Xiaomi 13T Pro มีราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย เริ่มต้นที่ 19,990 บาท สำหรับความจุ 12GB+512GB และ 23,990 บาทสำหรับความจุ 16GB+1TB โดยรุ่น 16GB+1TB นี้จะวางจำหน่ายเฉพาะ Xiaomi Store และบน Shopee และ Lazada เท่านั้น แต่รุ่นอื่น ๆ รวมถึงรุ่น 13T จะวางจำหน่ายใน Xiaomi Store และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ตัวอย่างเครื่องขายจริง
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Xiaomi 13T Pro
ซึ่งใครที่สั่งซื้อ Xiaomi 13T ทั้ง 2 รุ่นนี้ในระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 6 ตุลาคม 2566 จะได้รับของแถมดังนี้
- Xiaomi Watch S1 มูลค่า 6,990 บาท
- 67W Adapter สำหรับคนที่ซื้อ Xiaomi 13T (มูลค่า 1,099 บาท) หรือ 120W Adapter สำหรับคนที่ซื้อ Xiaomi 13T Pro (มูลค่า 1,599 บาท)
ของแถมทั้งหมดนี้จำกัดจำนวนที่ 1,000 ชิ้นเท่านั้น โดยทั้ง 2 รุ่นจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 นี้ ที่ตั้งแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
ที่มา : GSMArena
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส