OnePlus ได้เปิดตัว OnePlus สมาร์ตโฟนเรือธงใหม่ของค่ายแล้ว รุ่นนี้มาพร้อมชิปเซต Snapdragon 8 Gen 3, จูนด้วย Trinity Engine, กล้องที่คอลแลบกับ Hasselblad เหมือนเดิม , จอแสดงผล ProXDR 2K 120Hz , ชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC และชาร์จไร้สายได้ 50W AIRVOOC แล้ว !
โดย OnePlus 12 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของ OnePlus โดยมีแรงบันดาลใจด้านดีไซน์จากงานฝีมือของนาฬิกาหรู โดยต่อยอดดีไซน์จาก OnePlus 11 5G ด้วยการนำการออกแบบโค้งมนแบบรุ่นที่แล้วมาผสมในรุ่นใหม่นี้ โดยวางจำหน่าย 2 สี ได้แก่ สีเขียว Flowy Emerald และ สีดำ Silky Black
ด้านสเปกภายในก็เป็นอีกอย่างที่ใส่มาเต็มเหมือนเดิม ด้วยชิปเซต Snapdragon 8 Gen 3 ล่าสุดจาก โดยทาง OnePlus ได้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ภายในเครื่องในชื่อ ‘Trinity Engine’ ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU สูงสุด 30% และประสิทธิภาพของ GPU เพิ่มขึ้น 25% พร้อม RAM LPDDR5X สูงสุด 16GB และ ROM UFS 4.0 ความจุ 512GB นอกจากนี้ OnePlus 12 ยังเป็นเครื่องแรกที่ได้รับการรับรองว่าเป็น Snapdragon Spaces Ready หรือก็คือรองรับระบบที่ให้นักพัฒนานำไปสร้างระบบ XR หรือ AR ได้ง่าย ๆ ด้วย
ด้านในเครื่อง มีระบบระบายความร้อน Dual Cryo-velocity Vapor Chamber ขนาดใหญ่ ซึ่งมีโครงสร้างการกระจายความร้อนแบบ 3 มิติ และการออกแบบ Vapor Chamber คู่ พร้อมพื้นที่ที่รวมกันได้ 9,140 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดบนสมาร์ตโฟน OnePlus เท่าที่เคยมีมา ซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้กระบวนการผลิตแบบหล่อด้วยวัสดุชิ้นเดียว โดยจะดูดซับความร้อนจาก Vapor Chamber ขนาดเล็กอย่างสม่ำเสมอเพื่อเร่งกระบวนการกระจายความร้อน ซึ่งทาง OnePlus เคลมว่า OnePlus 12 จะสามารถเล่นเกมได้นาน ๆ ตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมไปด้วย ชาร์จพร้อมกันได้โดยไม่ร้อนเกินไปด้วย (ต้องรอทดสอบอีกครั้ง)
นอกจากนั้น ตัวเครื่องยังรองรับระบบชาร์จไว 100W SUPERVOOC Endurance Edition และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5400mAh และสามารถชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย 50W AIRVOOC ได้แล้ว (หลังจากไม่มีมานาน) ผ่านชาร์จด้วยกำลังไฟ 25W ให้กับแบตเตอรี่คู่ในเครื่อง
ทาง OnePlus เคลมว่า OnePlus 12 สามารถในการเล่นเกม Genshin Impact ที่การตั้งค่าสูงสุด ได้เฟรมเรตเฉลี่ย 57.4 FPS ในระหว่างการทดสอบเป็นเวลา 3 ชั่วโมง และถ่ายวิดีโอต่อเนื่องได้นาน 5.5 ชั่วโมงบนความละเอียด 1080p ที่ 30Hz
หน้าจอของ OnePlus 12 เป็นจอแสดงผล OLED ProXDR 2K 120Hz ที่ใช้รูปแบบพิกเซลบลูไดมอนด์ของ BOE สว่างสูงสุดที่ 4,500 nits แบบ LTPO ที่รีเฟรชเรต 1Hz ถึง 120Hz และรองรับ Dolby Vision ด้วย
โดย OnePlus 12 มีฟีเจอร์ HyperRendering สร้างขึ้นจากอัลกอริธึมกราฟิกภายในของ OnePlus และชิปประมวลผลภาพแยก Pixelworks X7 เพื่อเพิ่มเฟรมเรตของเกมให้ลื่นแบบ 120Hz ทุกเกม และปรับสี HDR แบบเรียลไทม์ และยังมีฟีเจอร์ Aqua Touch ที่ทำให้สามารถแตะหน้าจอได้อยู่แม้จอจะเปียกน้ำอยู่
ส่วนกล้องถ่ายภาพของ OnePlus 12 ยังได้พัฒนาซอฟต์แวร์ร่วมกับ Hasselbladเหมือนเดิม โดย
มีกล้องหลักสามตัวเหมือนเดิม ดังนี้
- กล้องถ่ายภาพหลักเซนเซอร์ Sony LYT-808 ความละเอียด 50MP f/1.6 ขนาดเซนเซอร์ 1/1.4 นิ้ว
- กล้องถ่ายภาพมุมกว้างมากความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX581 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องถ่ายภาพซูม Periscope เซนเซอร์ OmniVision OV64B (ซูม 3 เท่า) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล f/2.6
- กล้องหน้าเซนเซอร์ Sony IMX615 ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.4
โดยมีโหมดถ่ายภาพบุคคลของ Hasselblad ในการจำลองโบเก้และเอฟเฟกต์แสงแฟลร์ของเลนส์ Hasselblad จาก 1x เป็น 3x เหมือนที่เคยทำมาใน OnePlus 11 อีกด้วย
ทั้งนี้ OnePlus 12 ยังไม่มีราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่ราคาระดับ Global ของรุ่น 12GB+256GB ราคา 799.99 เหรียญ (ประมาณ 28,600 บาท) และรุ่น 16GB+512GB ราคา 899.99 เหรียญ (ประมาณ 32,200 บาท)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส