ระบบการจดจำใบหน้าของ Galaxy S8/S8+ อาจต้องใช้เวลาพัฒนามากกว่า 4 ปี เพื่อให้มีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ The Korea Herald ยืนยันว่าวิธีการยืนยันด้วยใบหน้ายังไม่พร้อมที่จะใช้และยังคงต้องมีการพัฒนาต่อไป

“สำหรับระบบการจดจำใบหน้าเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินอาจต้องใช้เวลามากกว่า 4 ปีในการพัฒนาทั้งตัวกล้องและเทคโนโลยีที่รองรับกับตัวระบบ”

แต่ระบบการจดจำใบหน้าก็ไม่ใช่ระบบใหม่เสียทีเดียว เราเคยใช้ระบบการจดจำใบหน้าแล้วตั้งแต่ปี 2011 ในระบบ Android เวอร์ชัน Ice Cream Sandwich โดยระบบนี้ใช้ชื่อว่า “Face Unlock” แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องทำการยกเลิกระบบนี้ไปเนื่องจากความล้มเหลวในการใช้งาน ปัจจุบันบริษัท Samsung ต้องการที่จะนำระบบนี้กลับมาใช้อีกครั้งโดยทำให้ระบบมีความน่าเชื่อถือ สะดวก และสามารถใช้งานได้จริง

ในตอนนี้ระบบการจดจำใบหน้ายังคงเป็นระบบที่ใช้เพื่อทำการปลดล็อกหน้าจอเท่านั้น ทางบริษัทเองก็ยังมองว่ามันเป็นระบบที่มีความปลอดภัยที่ต่ำเมื่อเทียบกับระบบสแกนรอยนิ้วมือ โฆษกของ Samsung ได้ออกมากล่าวว่า “พวกเราไม่จำเป็นจะต้องใช้ระบบการจดจำใบหน้าสำหรับธุรกรรมทางการเงิน เพราะว่ามันมีระบบที่ดีกว่าอยู่แล้วอย่างระบบสแกนม่านตาและการสแกนรอยนิ้วมือ คำถามคือเราจะมีมันไปอย่างไร้ค่าทำไม”

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยที่ว่าความเร็วและความสะดวกจะทำให้ระบบการจดจำเสียงและใบหน้า กลายเป็นระบบที่ถูกใช้เป็นหลักในอนาคต ระบบต่างๆ จะถูกปรับให้มีความง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มและใช้เพียงแค่สิ่งที่มีอยู่แล้วเท่านั้น ซึ่งโทรศัพท์ส่วนมากในปัจจุบันก็มีทั้งไมค์โครโฟนและกล้องหน้า ในขณะที่ระบบสแกนม่านตาและระบบสแกนลายนิ้วมือไม่ได้มีอยู่ในทุกๆ เครื่อง

อ้างอิง