Huawei ได้จัดอีเวนท์เปิดตัว Mate 20 และ Mate 20 Pro ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยได้รับการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างน่าสนใจ ทั้งดีไซน์ และประสิทธิภาพการทำงาน

ดีไซน์

Huawei Mate 20 ได้รับการดีไซน์โดยอ้างอิงถึงความพลิ้วไหวและสอดคล้องกับธรรมชาติ โดยมาพร้อมหน้าจอ RGBW ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2244×1080 พิกเซล) อัตราส่วน 18.7:9 พร้อมรองรับ DCI-P3 HDR ความสว่าง 820 nits และใช้พลังงานน้อย

ส่วน Mate 20 Pro นั้น มีจอ OLED ขอบโค้งขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 2K+ (3120×1440 พิกเซล) ที่มีความละเอียดของสีมากกว่า และอัตราส่วน 19.5:9

ทั้ง Mate 20 และ Mate 20 Pro นั้น มีดีไซน์หน้าจอไร้ขอบ โดยมีสัดส่วนพื้นที่หน้าจอต่อด้านหน้าตัวเครื่องมากถึง 88.07% และ 86.90% ซึ่งมากกว่า iPhone XS Max ที่มี 83.67%

ด้านหลังตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้ให้มีความโค้ง รับกับอุ้งมือพอดี และใช้วัสดุที่ไม่ทำให้เกิดรอยนิ้วมือ และจับได้อย่างมั่นคง

นอกจากนี้ ลำโพงคู่ยังได้รับการออกแบบให้ซ่อนอยู่ในตัวเครื่อง ผ่านพอร์ต USB-C ทำให้ดูสบายตา และมีศักยภาพดีมากอีกด้วย

สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ

Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วบนหน้าจอ โดยมีเทคโนโลยี Dynamic Pressure Sensing (DPS) รองรับแรงกดถึง 10 ระดับ ทำให้สามารถปลดล็อคตัวเครื่องได้เร็วขึ้นถึง 30%

Nano Memory Card

Huawei ได้นำเสนอ Memory Card รูปแบบใหม่ นั่นคือ Nano Memory Card (NM Card) ความจุ 256 GB ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า microSD Card ถึง 45% โดยทำให้เครื่องสามารถรองรับ Nano Sim และ NM Card ได้ในถาดซิมเดียวกัน (หรืออาจเลือกใส่ 2 ซิม แทนก็ได้)

สีสันสวยงามจากธรรมชาติ

Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro มาพร้อม 5 สี สวยสดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ได้แก่ เขียว Emerald Green, น้ำเงิน Midnight Blue, ดำ Classic Black, ทองชมพู Pink Gold และ สี Twilight อันโดดเด่น

ศักยภาพชิปเซ็ต 7 นาโนเมตร

Huawei ได้เน้นย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนระดับโลกสำหรับ Mate 20 และ Mate 20 Pro นั่นคือ Kirin 980 ชิปเซ็ตระดับ 7 นาโนเมตร เป็นรายแรกของโลก ซึ่งได้รับการพัฒนา Dual NPU (หน่วยประมวลผลแบบแกนสมองคู่), ชิปกราฟิก Mali-G76, โมเด็ม 1.4 Gbps Cat.21 และรองรับ LPDDR4X 2133 MHz

Kirin 980 มีประสิทธิภาพในการประมวลผลเพิ่มมากขึ้น 75%, ประมวลผลกราฟิกดีขึ้น 46% และ AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น 226% อีกทั้งยังสามารถจัดการพลังงานได้ดีขึ้นอีกด้วย

SuperCharge 40 วัตต์ และชาร์จไร้สาย

Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ได้รับการอัพเกรดแบตเตอรีเป็น 4,000 และ 4,200 mAh พร้อมเทคโนโลยี SuperCharge กำลังไฟ 40 วัตต์ ที่ทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจน และเร็วกว่าแบรนด์อื่นถึง 440%

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จไร้สาย และแท่นชาร์จ กำลังไฟ 15% ซึ่งชาร์จได้เร็วกว่าแบรนด์อื่นถึง 77%

และที่สำคัญคือ ตัวเครื่อง Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro เองสามารถเป็นชาร์จไร้สายให้กับสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ที่รองรับการชาร์จไร้สายได้ ยกตัวอย่างเช่น iPhone XS เป็นต้น

รวดเร็วแม่นยำ

Huawei ยังใช้สัญญาณ GPS แบบคู่ ทำให้มีความแม่นยำในการระบุตำแหน่งมากขึ้นถึง 10 เท่า และรองรับ WiFi ได้เร็วที่สุดในโลกถึง 1733 Mbps ซึ่งสามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์ระดับ HD ได้ใน 10 วินาที เลยทีเดียว

เสริมศักยภาพกล้อง และ AR

Huawei Mate 20 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว เลนส์ Leica โดยมีความละเอียดดังนี้

  • Ultra Wide Angle : 16 ล้านพิกเซล, f/2.2
  • Wide Angle : 12 ล้านพิกเซล, f/1.8
  • Telephoto : 8 ล้านพิกเซล, f/2.4

และ Mate 20 Pro  ก็มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว เลนส์ Leica เช่นกัน โดยมีความละเอียดดังนี้

  • Wide Angle : 40 ล้านพิกเซล, f/1.8
  • Ultra Wide Angle : 20 ล้านพิกเซล, f/2.2
  • Telephoto : 8 ล้านพิกเซล, f/2.4

สิ่งที่ยังคงโดดเด่นและได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกคือการถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยี Super HDR ที่สวยงาม เก็บรายละเอียดด้านหน้าและหลังได้คมชัด อีกทั้งการถ่ายภาพในที่มืดยังสามารถดัน ISO ได้ถึง 102400 ทำให้เก็บรายละเอียดได้ดีกว่าแบรนด์อื่นที่มี ISO น้อยกว่า 6400 และเสริมศักภาพด้วย AI ทำให้ภาพออกมาเนียนมากยิ่งขึ้น รวมถึงเอฟเฟก Bokeh ด้วย

นอกจากนี้ กล้องของ Mate 20 และ Mate 20 Pro ยังมาพร้อมเทคโนโลยี AR ที่สามารถสแกนสิ่งของให้เห็นโมเดล 3 มิติ และกำหนดการเคลื่อนไหวได้ โดยเป็นผลมาจากการพัฒนาร่วมกับแพลตฟอร์ม AR Core ของ Google

อีกทั้งเทคโนโลยีด้าน AI ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาก ทำให้กล้องสามารถคำนวนปริมาณแคลอรีจากอาหารที่อยู่ตรงหน้ากล้องได้

และยังสามารถแชร์ภาพผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วอีก และมีอุปกรณ์เสริมสำหรับช่วยถ่ายภาพใต้น้ำด้วย

EMUI 9 และ Android 9.0 Pie

Huawei ได้พัฒนา EMUI9 เพื่อให้สอดรับการประสิทธิภาพของ Android 9.0 Pie อย่างเต็มที่ โดยได้รับแรงบันดาลใจในการดีไซน์ให้มีความเป็นธรรมชาติ ดูสบายตา และปรับปรุงให้ใช้งานได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังร่วมกับ Google ในการปล่อยอัพเดต Android 9.0 Pie เป็นชุดแรกของโลกด้วย

สเปค

Huawei Mate 20

  • หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2244 x 1080 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 980
  • แรม 4 GB
  • ความจุ 128 – 256 GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว : 12 + 16 + 8 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล
  • ระบบปฏิบ้ติการ Android 9.0 Pie ครอบด้วย EMUI 9
  • แบตเตอรี 4,000 mAh

Huawei Mate 20 Pro

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 3120 x 1440 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต HiSilicon Kirin 980
  • แรม 6 GB
  • ความจุ 128 – 256 GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว : 40 + 20 + 8 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล
  • ระบบปฏิบ้ติการ Android 9.0 Pie ครอบด้วย EMUI 9
  • แบตเตอรี 4,200 mAh

ราคา และกำหนดการวางจำหน่าย

Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro จะเริ่มวางจำหน่าย 16 ตุลาคม 2018 โดยมีราคาดังต่อไปนี้

Huawei Mate 20

  • 4 GB + 128 GB : ราคา 799 ยูโร (ประมาณ 30,000 บาท)
  • 6 GB + 128 GB : ราคา 849 ยูโร (ประมาณ 32,000 บาท)

Huawei Mate 20 Pro

  • 6 GB + 128 GB : ราคา 1,049 ยูโร (ประมาณ 39,500 บาท)

ข้อมูลอ้างอิง : HuaweiMate20 และ HuaweiMate20Pro

ข่าวอื่นๆ