ในช่วงไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2020 (ระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน) ที่ผ่านมานั้น ถือได้ว่าตลาดสมาร์ตโฟนมีการเติบโตค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เนื่องจากเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ขึ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2020 นั้ มียอดจำหน่ายสมาร์ตโฟนทั้งสิ้น 294.7 ล้านเครื่อง ซึ่งลดลงประมาณ 20.14% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 เมื่อปี 2019 ที่ทำได้ 270.3 ล้านเครื่อง
ในส่วนของแบรนด์สมาร์ตโฟนต่าง ๆ นั้น Samsung และ Huawei สามารถครองตลาดส่วนใหญ่ไปได้ 19.5% และ 20% ตามลำดับ ส่วน Apple นั้นมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 13.5% โดยแต่ละแบรนด์มียอดจำหน่ายดังนี้
- Samsung : 54.7 ล้านเครื่อง (ไตรมาสที่ 2 ปี 2019 ทำได้ 75.1 ล้านเครื่อง)
- Huawei : 54.1 ล้านเครื่อง (ไตรมาสที่ 2 ปี 2019 ทำได้ 58 ล้านเครื่อง) : ครองตลาดในประเทศจีนถึง 42.6%
- Apple : 38.3 ล้านเครื่อง (ไตรมาสที่ 2 ปี 2019 ทำได้ 38.5 ล้านเครื่อง)
สำหรับแบรนด์อื่น ๆ ที่มีส่วนแบ่งตลาดรองลงมาคือ Xiaomi (10.2%) และ OPPO (8.6%)
ทางด้านบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Omdia ก็ได้รายงานว่า iPhone 11 ของ Apple เป็นสมาร์ตโฟนที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 โดยมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 37.7 ล้านเครื่อง รองลงมาคือ Samsung Galaxy A51 (11.4 ล้านเครื่อง), Xiaomi Redmi Note 8 (11 ล้านเครื่อง), Xiaomi Redmi Note 8 Pro (10 ลานเครื่อง), iPhone SE 2020 (8.7 ล้านเครื่อง), iPhone XR (8 ล้านเครื่อง), iPhone 11 Pro Max (7.7 ล้านเครื่อง) และ iPhone 11 Pro (6.7 ล้านเครื่อง)
ข้อมูลอ้างอิง : gsmarena
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส