OnePlus เปิดตัวสมาร์ตโฟนระดับเรือธงรุ่นใหม่สองรุ่น ได้แก่ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือดีไซน์และสเปกระดับพรีเมียม แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือเรื่องกล้องที่เป็นครั้งแรกของ OnePlus ในการจับมือร่วมกับแบรนด์กล้องระดับโลกอย่าง Hasselblad
OnePlus 9 Pro มีหน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รีเฟรชเรตหน้าจอสูงถึง 120Hz ซึ่ง LTPO หรือ low-temperature polycrystalline oxide เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับรีเฟรชเรตของหน้าจอให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ณ ปัจจุบันของเครื่อง อย่างเช่น หากแบตเตอรีต่ำตัวเครื่องจะลดรีเฟรชเรตลงได้ถึง 1Hz เพื่อประหยัดแบตเตอรี
ด้านสเปกภายในส่วนใหญ่ของ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro จะเหมือนกัน ได้แก่ ใช้ Snapdragon 888, แรม LPDDR5 8/12GB, ความจุชนิด UFS 3.1 128/256GB, หน้าจอสว่างสูงสุด 1,300 nits รองรับ HDR10+,แบตเตอรีความจุ 4,500 mAh รองรับชาร์จไว 65W ส่วน ข้อแตกต่างคือรุ่นปกติรองรับชาร์จไร้สายที่ 15W ในขณะที่รุ่น Pro รองรับชาร์จไร้สายที่ 50W
จุดขายสำคัญของ OnePlus 9 คือกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Hasselblad โดยเน้นเรื่องการปรับปรุงคุณภาพและความแม่นยำของสี โดย OnePlus 9 มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX689, กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX766, เซนเซอร์โมโนโครมความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ด้าน OnePlus 9 Pro มีกล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX789, กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Sony IMX766, กล้องซูมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล 3.3x และกล้องโมโนโครมความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จุดแตกต่างระหว่าง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro คือกล้องซูม 3.3x น่าเสียดายที่กล้องของ OnePlus 9 ขาดกันสั่นแบบออปติคอลหรือ OIS แต่ OnePlus เลือกใช้กันสั่นแบบซอฟต์แวร์หรือ EIS แทน
การร่วมมือพัฒนากล้องระหว่าง OnePlus และ Hasselblad ทำให้ OnePlus 9 มีโหมดถ่ายภาพพิเศษที่ชื่อว่า Hasselblad Pro ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพได้ละเอียดขึ้น ได้แก่ ความเร็วชัตเตอร์, ระดับ ISO, ฮิสโตแกรม และ exposure length รวมถึงยังสามารถ่ายภาพไฟล์ RAW 12-bit บน OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ได้ นอกจากนี้แอปกล้องของ OnePlus 9 จะมีเสียงเอฟเฟกพิเศษซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Hasselblad เพิ่มมาให้ด้วย
ฟีเจอร์อื่น ๆ: Nightscape 2.0, Super Macro, UltraShot HDR, Portrait mode, ระบบตรวจจับใบหน้าหมาและแมว, Super Stable video, Nightscape Video และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 8K/30fps และ 4K/120fps
ทั้ง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro แกะกล่องมาเป็น Android 11 ครอบด้วย OxygenOS 11 มีฟีเจอร์ Turbo Boost 3.0 ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยความจำซึ่งช่วยให้การเปิดแอปพลิเคชันรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังมีโหมด Pro Gaming Mode ซึ่งเป็นโหมดสำหรับเล่นเกมที่เปลี่ยนชื่อมาจาก Fnatic Gaming (หมดสัญญากับบริษัทคู่ค้าเก่า) รวมถึงระบบรายความร้อนที่อัปเกรดให้ดีขึ้นกว่าเดิม ทำให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง
OnePlus 9 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Winter Mist, Arctic Sky และ Astral Black หน่วยความสองแบบ ได้แก่ 8/128GB ราคา 729 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22,590 บาท และ 12/256GB ราคา 829 ดอลลาร์ หรือประมาณ 25,690 บาท ส่วน OnePlus 9 Pro มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Morning Mist, Stellar Black และ Pine Green หน่วยความจำ 2 แบบ ได้แก่ 8/128GB ราคา 969 ดอลลาร์ หรือประมาณ 30,000 บาท และรุ่น 12/256GB ราคา 1,069 ดอลลาร์ หรือประมาณ 33,100 บาท
อ้างอิง 9to5Google
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส