วันนี้เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD Global) เจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์โนเกีย (Nokia) สัญชาติฟินแลนด์ ขนกองทัพสมาร์ตโฟนมาเปิดตัวพร้อมกันถึง 6 รุ่น ใน 3 ซีรีส์ ทั้งในซีรีส์ X ระดับสูง ซีรีส์ G ระดับกลาง และซีรีส์ C ระดับเริ่มต้น ในราคาที่ไม่แรงมาก แต่มาพร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ แบบจุใจ

ซีรีส์ X: Nokia X20 และ Nokia X10

ในซีรีส์ X มีการเปิดตัวพร้อมกันถึง 2 รุ่น Nokia X20 และ Nokia X10 สมาร์ตโฟนระดับสูงสุดที่เปิดตัวในครั้งนี้ โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ จะมีการใช้ชิป Snapdragon 480 รุ่นล่าสุด เพื่อการรองรับการใช้งานผ่านเครือข่าย 5G ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมด้วยเลนส์กล้องจาก ZEISS ที่โด่งดังและ AI ที่เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการถ่ายภาพ

Nokia X20 จะใช้กล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 4 ตัวความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล โดยจะสามารถเปิดใช้งานได้พร้อมกันทั้ง 2 ตัว ในโหมด Dual Sight และสามารถใส่ลายน้ำเพิ่มเติมในภาพในภายหลังได้ด้วย

Nokia X10 สมาร์ตโฟนรุ่นรองลงมา ใช้กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้แบบ Cinematic เพิ่มความเป็นมืออาชีพในการถ่ายภาพและวิดีโอ

ทั้ง 2 รุ่นนี้ Nokia X20 และ Nokia X10 จะมาพร้อมกับ Android One ระบบปฏิบัติการที่ปราศจากการปรับแต่งในรุ่น Android 11 ทั้งนี้ในกล่องบรรจุภัณฑ์จะมีเคสที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ซีรีส์ G: Nokia G20 และ Nokia G10

สำหรับระดับกลางที่เปิดตัวในครั้งนี้นั่นคือซีรีส์ G ทั้งหมด 2 รุ่น Nokia G20 และ Nokia G10 ซึ่ง 2 รุ่นนี้มีจุดเด่นสำคัญก็คือสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 3 วัน เรียกได้ว่าเล่นได้แบบไม่ต้องง้อสายชาร์จ พร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่ถึงขนาด 6.5 นิ้ว และการปลดล็อกด้วยใบหน้าหรือนิ้วมือด้านข้าง

Nokia G20 มาพร้อมกับกล้องถึง 4 ตัว ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และระบบเสียงรอบทิศทาง OZO ที่ให้เสียงได้สมจริง

Nokia G10 มีกล้องหลัง 3 ตัว พร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพได้มากยิ่งขึ้น

ซีรีส์ C: Nokia C20 และ Nokia C10

มาถึงในซีรีส์ C ทั้ง 2 รุ่น Nokia C20 และ Nokia C10 ในระดับเริ่มต้น รุ่นประหยัด ที่ใช้จอ HD+ ที่ใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการที่เบาลงกว่ารุ่นปกติ Android 11 Go edition (Android สำหรับสมาร์ตโฟนทรัพยากรน้อย) เพิ่มความเร็วให้กับตัวเครื่องได้ถึง 20%

Nokia C20 ให้กล้องหน้าและกล้องหลังมาความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED เพื่อการถ่ายในที่แสงน้อย รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE

ส่วน Nokia C10 จะเป็นรุ่นล่างสุดจะรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 3G เท่านั้น

การอัปเดต

สำหรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการนั้น ซีรีส์ X จะได้รับการอัปเดต OS ถึง 3 ปี ในขณะที่ซีรีส์ G จะได้รับการอัปเดต 2 ปีตามมาตรฐานของ Android ในส่วนของอัปเดตความปลอดภัยนั้น ซีรีส์ X และ ซีรีส์ G จะได้รับการอัปเดตรายเดือนนานถึง 3 ปี ในขณะที่ซีรีส์ C จะได้รับการอัปเดตความปลอดภัยรายไตรมาสเพียง 2 ปีเท่านั้น

สำหรับการวางจำหน่ายและราคามีดังนี้

  • Nokia X20 (สี Midnight Sun และ Nordic Blue)
    • 6 / 128GB และ 8 / 128GB เริ่มต้นที่ 349 ยูโร (~13,000 บาท)
  • Nokia X10 (สี Forest และ Snow)
    • 6 / 64GB, 6/128 GB และ 4 / 128GB เริ่มต้นที่ 309 ยูโร (~11,600 บาท)
  • Nokia G20 (สี Night และ Glacier)
    • 4 / 64GB และ 4 / 128GB เริ่มต้นที่ 159 ยูโร (~6,000 บาท)
  • Nokia G10 (สี Night และ Dusk)
    • 3 / 32GB และ 4 / 64GB เริ่มต้นที่ 139 ยูโร (~5,200 บาท)
  • Nokia C20 (สี Sand และ Dark Blue)
    • 1 / 16GB, 2 / 32GB เริ่มต้นที่ 89 ยูโร (~3,400 บาท)
  • Nokia C10 (สี Light Purple และ Grey)
    • 1 / 16GB, 1 / 32GB และ 2 / 16GB เริ่มต้นที่ 75 ยูโร (~2,800 บาท)

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส