มีข่าวมากมายถึงชื่อใหม่ของ iPhone หน้าจอเล็ก ไม่ว่าจะเป็น iPhone 6c, iPhone 7C, iPhone 6S mini หรือ iPhone 5e (“e” ย่อมาจาก “enhanced”) โดยจากข้อมูลทั้งหมดพอจะทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็น iPhone 6c แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ iPhone 6c อาจจะมาพร้อมกับ 10 ฟีเจอร์เด่นๆ ดังนี้
1.) การกลับมาของหน้าจอ 4 นิ้ว
iPhone 6c น่าจะมีหน้าจอขนาด 4 นิ้ว เหมือนกับ iPhone 5, iPhone 5s และ iPhone 5c โดยมีความละเอียด 1,136 x 640 พิกเซล เหมือนกับ Phone 5 และ iPhone 5s
2.) ด้านหลังเครืองทำจากโลหะ และมีให้เลือกหลายสี
iPhone 6c จะมาพร้อมกับวัสดุทำจากอลูมิเนียมแทนที่พลาสติกแบบแข็งของ iPhone 5c และจะมีให้เลือกหลายสีด้วยกันเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ คือ สีน้ำเงิน เหลือง ชมพู เขียว ขาว และอาจจะมีสีทอง สีเงิน และสเปซเกรย์ ด้วย
3.) กระจกหน้าจอ “2.5D”
iPhone 6c น่าจะมาพร้อมกับกระจกหน้าจอแบบ 2.5D เหมือนกับ Galaxy Note 4, Google Nexus 6, Xiaomi Mi Note และ Oppo R7 โดยกระจกแบบ 2.5D
ข้อดีของกระจกหน้าแบบ 2.5D glass ก็คือช่วยให้การสัมผัสนุ่มนวลขึ้น
4.) ชิป A9
จากการวิเคราะห์ระบุว่า iPhone 6c น่าจะใช้ชิปซีพียู A9 ซึ่งมีความเร็วเท่ากับ Phone 6S และ iPhone 6S Plus โดยจะเป็นชิป FinFET 14/16 นาโนเมตร ของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) และ Samsung ที่มีขนาด 14/16 นาโนเมตร ซึ่งจะทำให้มีความเร็วและสเถียรกว่า
5.) แรม 2GB
จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ (Foxconn) iPhone 6c จะมีแรมขนาด 2GB เช่นเดียวกับ iPhone 6S และ iPhone 6S Plus
6.) กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล
กล้องของ iPhone 6c น่าจะมีขนาด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 มี HDR อัตโนมัติ และรองรับการถ่ายวิดีโอสโลโมชั่น 1080p
สำหรับกล้องหน้า จะมีขนาด 1.2 ล้านพิกเซล
7.) เนื่อที่ภายในตัวเครื่อง 16GB
มีข่าวว่า iPhone 6c ได้เริ่มผลิตฮาร์ดิสค์เครื่องที่ 16GB
8.) Touch ID
iPhone 6c จะมี Touch ID ด้วยเช่นกัน ซึ่งจากภาพที่หลุดออกมาก็มีลักษณะคล้ายกับ iPhone 5c ที่มีระบบ Touch ID
9.) แบตเตอรี่ 1,642 mAh
จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือกล่าวถึง iPhone 6c ว่าจะมีขนาดแบตเตอรี่ 1,642 mAhซึ่งมากกว่าเดิม 72 mAh จากที่เดิมมี 1,570 mAh
10.) Apple Pay
The iPhone 6c น่าจะมาพร้อมเทคโนโลยี NFC เพื่อรองรับการทำงานของ Apple Pay
ไม่มี 3D Touch
หากมีการเพิ่ม 3D Touch เข้าไป จำทำให้ต้นทุนในการผลิตสูงมากขึ้น และจะเป็นการยากที่จะลดราคา iPhone 6c ให้มีราคาอยู่ในตลาดระดับกลาง
ราคาและกำหนดวางจำหน่าย
น่าจะอยู่ระหว่าง 400 – 500 เหรียญ (ประมาณ 14,500 – 18,000 บาท) แต่กำหนดวางจำหน่ายยังไม่แน่นอน
ที่มา : MSN