ออปโป้ (OPPO) ประเทศไทยได้เปิดตัว OPPO Reno 7 Z 5G สมาร์ตโฟนรุ่นน้องตัวล่าสุดในตระกูล Reno 7 ย้ำแนวคิด The Portrait Expert ที่สามารถถ่ายภาพพร้อมฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait เบลอพื้นหลังให้สวยได้เหมือนใช้กล้อง DSLR พร้อมฟีเจอร์ Dual Orbit Lights ไฟส่องสว่างรอบกล้องหลังตามการใช้งานสถานการณ์ต่าง ๆ มาพร้อม CPU Qualcomm Snapdragon 695 5G
สาย Portrait ต้องไม่พลาด กับฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait
OPPO Reno 7 Z 5G มีกล้องหลัง 3 กล้อง โดยเลนส์หลักมีความละเอียดถึง 64 ล้านพิกเซล เลนส์วัดระยะ และเลนส์มาโครที่ถ่ายใกล้ได้ถึง 4 เซนติเมตร กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และ OPPO Reno 7 Z 5G ยังมาพร้อมฟีเจอร์กล้องที่มากไม่แพ้รุ่นพี่อย่าง OPPO Reno 7 5G และ OPPO Reno 7 Pro 5G ด้วยฟีเจอร์ Bokeh Flare Portrait ที่ทำงานร่วมกันกับ AI เพื่อช่วยเบลอพื้นหลังของภาพ พร้อมให้ดวงไฟโบเก้ฟุ้งละมุนแบบอัตโนมัติ สามารถตรวจจับบุคคลและตัดภาพบุคคลออกจากพื้นหลัง และเบลอฉากหลังได้อย่างฉลาด ทาง OPPO เคลมว่าสามารถตัดได้ลึกถึงเส้นผมเลยทีเดียว
รวมถึงยังมี Portrait Retouching ซึ่งเป็นเอฟเฟกต์ปรับผิวหน้า โทนสีผิว หรือแต่งหน้าได้สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติทั้งกการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอเลย ซึ่งฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้ทั้งกับกล้องหน้า และกล้องหลังของ OPPO Reno 7 Z 5G เลย ในการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้า แม้จะแสงน้อยก็สามารถถ่ายได้ด้วยฟีเจอร์ Selfie HDR
ประสิทธิภาพที่พร้อมรับกับยุค 5G กับ Snapdragon 695
OPPO Reno 7 Z 5G นั้นขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง CPU Qualcomm Snapdragon 695 5G (Octa-Core, Up to 2.2 GHz) ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบความเร็วสูงอย่าง 5G และมอบประสบการณ์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ก็ประหยัดพลังงานด้วยกับสถาปัตยกรรม 6 นาโนเมตร มีแรม 8GB พร้อมฟีเจอร์ Ram Extension ซึ่งเพิ่มแรมได้อีก 5GB และมีหน่วยความจำ (ROM) 128GB มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh ในขณะที่มาพร้อมเทคโนโลยี 33W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตจนเต็ม 100% ได้ภายใน 63 นาที
OPPO Reno 7 Z 5G มีหน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว รีเฟรชเรต 60Hz อัตราส่วนหน้าจอต่อขอบเครื่อง 90.8% มาพร้อมซอฟต์แวร์ Color OS 12 (Based on Android 11) ซอฟต์แวร์สกินของทาง OPPO รุ่นใหม่ล่าสุดอีกด้วย
Ultra-Slim Retro Design ขอบเหลี่ยมแบบใหม่ โดดเด่นมีชีวิตชีวา พร้อมสีผสาน OPPO Glow
Ultra-Slim Retro Design เป็นดีไซน์ขอบเหลี่ยมแบบใหม่ ซึ่งทำให้ OPPO Reno 7 Z 5G นั้นมีความบางเบา จับถือได้ถนัดมือ โดยมีน้ำหนัก 173 กรัม บางเพียง 7.55 มิลลิเมตร (ในสีรุ้ง Rainbow Spectrum) และ 7.49 มิลลิเมตร (ในสี Cosmic Black)
OPPO Reno 7 Z 5G ยังมาพร้อมกับ เทคนิคการออกแบบฝาหลังแบบ OPPO Glow ซึ่งเป็นการเคลือบ 2 ชั้น และพื้นผิว 3 เลเยอร์ โดยอยู่ในสีใหม่ล่าสุด สีรุ้ง Rainbow Spectrum ที่ระยิบระยับ มีชีวิตชีวา เอฟเฟกต์แบบปริซึม 6 เฉดสีเหมือนสีรุ้งหลังสายฝน ในขณะที่สีดำ Cosmic Black จะเป็นสีดำแบบคลาสสิกและลุ่มลึกอีกด้วย
ฟีเจอร์ใหม่ที่มาใน OPPO Reno 7 Z 5G ก็คือ Dual Orbit Lighrts ที่จะเป็นไฟวงกลมล้อมรอบเลนส์กล้องหลัก ทั้ง 2 เลนส์ ที่จะกะพริบ หรือส่องแสงเป็นสีต่าง ๆ ตามสถานการณ์ เช่น ตอนเปิดเครื่อง ขณะชาร์จ รับสายเรียกเข้า เปิดเกม หรือแจ้งเตือนข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน เป็นต้น
ราคาและโปรโมชันช่วงพรีออร์เดอร์
สำหรับค่าตัวของ OPPO Reno 7 Z 5G นั้น อยู่ที่ 12,990 บาท และโปรโมชันสำหรับช่วงพรีออร์เดอร์ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 16 มีนาคมนี้ จะได้รับของแถมเป็น E-VIP Card และ OPPO Sports Bag มูลค่ารวม 7,499 บาท ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เมื่อซื้อผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย จะมีราคาเริ่มต้นที่ 4,790 บาท (ตามโปรโมชันของแต่ละเครือข่าย)
ตัวเครื่องจริงและตัวอย่างภาพถ่าย
และเหมือนกับตอนเปิดตัว OPPO Reno 7 5G และ Reno 7 Pro 5G ทางออปโป้ ไทยแลนด์ได้เปิดให้ทางสื่อมวลชนได้เข้าไปลองทดสอบใช้สมาร์ตโฟนที่เปิดตัวในวันนี้ ภายในงานด้วย ดังนั้นทางแบไต๋จึงได้นำเอาภาพตัวเครื่องจริง และตัวอย่างภาพถ่ายจากเครื่องในงานมาให้ทุกคนได้ลองชมกันเช่นเคยครับ
ภาพทุกภาพนี้เป็นภาพของตัวเครื่องขายจริง ของ OPPO Reno 7 Z 5G สีรุ้ง Rainbow Spectrum ที่ฝาหลังจะมีการเหลื่อมของสีทั้ง 6 สีได้อย่างชัดเจน ในแต่ละมุมมองของเรา
หน้าตาของแอปกล้องถ่ายรูป และฟีเจอร์ที่มีให้ของ OPPO Reno 7 Z 5G
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง โหมดธรรมดา
(ภาพถ่ายทุกภาพสามารถกดที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง โหมดภาพถ่ายบุคคล (Portrait)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ภาพถ่ายจากกล้องหน้าโหมดธรรมดา (ซ้าย) และโหมดภาพถ่ายบุคคล (ขวา)
ตัวอย่างภาพถ่ายมาโคร
ภาพถ่ายจากกล้องหลังโหมดธรรมดา (ซ้าย) และโหมดมาโคร (ขวา)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส