AIS ร่วมมือกับ กสทช. พัฒนาบริการส่งเสียง Beep เมื่อผู้ใช้โทรออกนอกเครือข่าย โดยเสียงบี๊บจะดังขึ้นสั้นๆ ก่อนเข้าสู่สัญญาณเรียกสาย หรือ เสียงรอสายตามปกติ เมื่อลูกค้าเอไอเอส โทรออกไปหาเลขหมายปลายทางที่เป็นของผู้ให้บริการรายอื่น โดยบริการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ไม่ต้องสมัครใช้บริการ และไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม
ปัจจุบันรูปแบบโปรโมชั่นมีความหลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค จึงมีการให้บริการในรูปแบบที่ค่าบริการต่างกันระหว่างในเครือข่าย (On Net) และ นอกเครือข่าย (Off Net) ดังนั้นการแจ้งให้ทราบว่า ขณะนั้นผู้ใช้บริการกำลังโทรไปยังเครือข่ายเดียวกัน หรือ ต่างเครือข่าย จึงเท่ากับเป็นการยกระดับคุณภาพบริการให้สะดวกและพึงพอใจมากยิ่งขึ้น โดยวันนี้ เอไอเอส เป็นรายแรกที่ร่วมเปิดตัวบริการนี้ซึ่งก็เชื่อว่า จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และอุ่นใจในระหว่างการใช้งาน
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการ Digital Life Service Provider นอกเหนือจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ดีที่สุด เพื่อเสริมศักยภาพการบริหารจัดการให้แก่ทุกภาคอุตสาหกรรมและให้การใช้ชีวิตของคนไทยสะดวกในทุกมิติแล้ว การเดินหน้ายกระดับคุณภาพมาตรฐานการให้บริการ ก็เป็นสิ่งที่เราไม่เคยหยุดนิ่ง ดังนั้นเอไอเอส จึงร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมแห่งชาติ (กสทช.) ในการเปิดตัวการให้บริการ เสียงแจ้งการโทรออกไปหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างเครือข่ายในครั้งนี้ จึงเสมือนหนึ่งเป็นการร่วมกันยกระดับคุณภาพ และมาตรฐาน การให้บริการเพิ่มไปอีกขั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ การใช้งานของประชาชน”
ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ กสทช. ที่มีวัตถุประสงค์ และเป้าหมายหลักในการทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย เพิ่มศักยภาพ รูปแบบบริการการสื่อสาร อำนวยความสะดวก และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย รวมถึงสื่อสารให้ผู้ใช้บริการ ได้รับทราบข้อมูลระหว่างการใช้งานตลอดเวลา
“โดยบริการนี้เราพัฒนาขึ้นเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของการใช้บริการโทรคมนาคมของคนไทย ช่วยให้ลูกค้ารู้ตัวทุกครั้งที่มีการโทรข้ามเครือข่าย เพื่อจะได้คำนวณช่วงเวลาการโทรได้อย่างสอดคล้องกับโปรโมชั่นที่เลือกใช้ โดยบริการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ไม่ต้องสมัครใช้บริการ และไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม” นายปรัธนา กล่าวในตอนท้าย