เชื่อว่ามีหลายคนรอคอยกล้องตัวนี้กันอยู่อย่างแน่นอนครับ ตั้งแต่เปิดตัวฟูลเฟรมสไตล์ Retro มาครั้งแรกในปี 2013 กับ Nikon Df ด้วยบอดี้ที่ดูดุดันหล่อเหลาของยุค DSLR ที่ไม่มีใครมาเทียบได้
10 ปีผ่านไปในที่สุดก็มีกล้องรุ่นใหม่มาสืบสานตำนานฟูลเฟรมบอดี้ฟิล์มต่อเสียที ในชื่อรุ่น ‘Nikon Zf’ ที่ได้ดีไซน์ และจิตวิญญาณมาจาก FM2 ในตำนาน ต่อจาก Z fc ของฝั่ง APS-C ไม่ว่าจะแป้นไดอัลทองเหลืองไว้ปรับค่าต่าง ๆ อยู่บนตัวกล้อง มีรูเกลียวชัตเตอร์ไว้สำหรับติด Soft relesese เสริมหล่อ ผสมเข้ากับเทคโนลียีสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว กันสั่น 5 แกน 8 สต็อป ระบบโฟกัส 3D Tracking โฟกัสวัตถุได้ถึง 9 ชนิด หรือแม้แต่วิดีโอ 4K/60p 10-bit
เซนเซอร์ฟูลเฟรม 24.5 ล้านพิกเซล + ชิป EXPEED 7 และกันสั่นถึง 8 สต็อป!
หัวใจหลักของเจ้า Zf ขับเคลื่อนด้วยเซนเซอร์ฟูลเฟรม 24.5 ล้านพิกเซล แบบ BSI CMOS ประสานกับชิปประมวลผล Expeed 7 ทำให้ได้ทั้งด้านคุณภาพแม้ในที่แสงน้อย ความไวโฟกัสที่รวดเร็วขึ้น พร้อมกันสั่น 5 แกน ที่สามารถชดเชยชัตเตอร์สปีดได้ถึง 8 สต็อป
โหมด Pixel Shift ความละเอียดสูง 96 ล้านพิกเซล
เมื่อมีกันสั่นสุดเทพแล้วก็ยังพ่วงมาด้วยฟีเจอร์ถ่ายภาพความละเอียดสูง Pixel-shift 96 ล้านพิกเซล ที่เป็นการขยับชุดกันสั่น และตัวเซนเซอร์ถ่ายภาพ 32 ภาพมารวมกัน ออกมาเป็นภาพที่เปี่ยมไปด้วยดีเทล และสีสันที่อิ่มสมจริงกว่าการถ่ายภาพแบบปกติทั่วไป (ใช้ร่วมกับขาตั้งกล้อง)
อัปเกรด ISO สูงสุด 64,000
แม้เซนเซอร์จะความละเอียดเท่าในรุ่น Z6 II แต่ ISO ยังมีการอัปเกรดขึ้นอีกครับ โดยเริ่มต้นที่ 100 เท่ากัน แต่ Zf สามารถดันไปได้ถึง Native 64,000 ในขณะที่ Z6 II ทำได้แค่ 51,200
ซึ่ง Nikon กล่าวว่าที่ทำให้ ISO สูงขึ้นได้ต้องยกความดีความชอบให้กับเซนเซอร์แบบ BSI CMOS กับชิปประมวลผลตัวใหม่ที่แรงกว่าเดิมนั้นเอง
ระบบโฟกัส AI สุดฉลาด ครอบคลุมเฟรมภาพกว้างกว่าเดิม
ถ้าเทียบกับ Z6 II แล้ว เจ้า Zf มีระบบโฟกัสที่อัปเกรดให้ดีขึ้นไปอีกขั้นครับ ครอบคลุมเฟรมภาพแนวนอนถึง 96% เรียกว่าแทบจะชิดขอบภาพอยู่แล้ว ยิ่งผสมกับเทคโนโลยีโฟกัส Ai ของ Nikon ที่เรียกว่า 3D Tracking สามารถโฟกัสติดตามวัตถุได้ถึง 9 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น คน, สุนัข, แมว, นก, มอเตอร์ไซค์, จักรยาน, รถไฟ รวมไปถึงเครื่องบิน (นี่มัน Mini Z8 ในร่าง Retro)
พร้อมเคลมว่าสามารถโฟกัสใบหน้าคนได้แม้มีพื้นที่ในเฟรมเพียง 3% ก็ตาม ที่สำคัญคือสามารถโฟกัสในที่มืดได้สูงสุดถึง -10 EV เรียกว่ามืดแค่ไหนก็สามารถโฟกัสได้!
ให้ความสำคัญกับโหมด Black-and-White
นอกจากสวิตช์สลับโหมดภาพนิ่ง และวิดีโอแล้ว เจ้า Zf ยังเพิ่มโหมด Black-and-White หรือขาวดำเข้ามาด้วยครับ ทำให้การถ่ายขาวดำทำได้ง่ายกว่าเดิมเพียงปัดสวิตช์ พร้อมโหมดสี Flat Monochrome ให้โทนการไล่แสงเงาที่นุ่มนวล และ Deep Tone Monochrome สำหรับสายชอบแสงเงาจัด ๆ
บอดี้สุดหล่อสไตล์กล้องฟิล์ม FM2
เหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายคนอยากได้เจ้า Zf ก็คงเป็นเพราะหน้าตานี่ล่ะครับ ใครที่เคยเห็น เคยสัมผัส Z fc ของฝั่ง APS-C มาก่อนก็มาในทรงคล้าย ๆ กันเลย แต่บอดี้จะเป็นแบบ Magnesium-alloy ที่มีความแข็งแรงกว่า โลโก้ Nikon แบบคลาสสิก พร้อมแป้นไอดัลปรับค่าสปีดชัตเตอร์, ISO, ชดเชยแสงแบบทองเหลืองสไตล์กล้องฟิล์ม (ต้องขัดสีออกถึงจะเห็นความเป็นทองเหลืองที่ซ่อนอยู่)
นอกจากนี้ก็ยังมีจอ LCD ขนาดเล็กไว้บอกค่ารูรับแสง พร้อมซีลกันละอองน้ำละอองฝุ่นใส่มาให้ด้วยใช้งานได้อย่างอุ่นใจ
วิดีโอ 4K
Zf สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ระดับ 4K/30p (บันทึกจาก 6K) ซึ่งถ้าปรับเป็นโหมด APS-C ก็ยังสามารถบันทึกได้ที่ 4K/60p อีกด้วยครับ ยุคนี้ก็ต้องมาพร้อมกับสี 10-bit H.265 (น่าเสียดายที่ Z6 II ถ่าย 4K/60p แบบ full pixel readout ได้ แต่ Zf ไม่มี…)
สเปก Nikon Zf
- เซนเซอร์ 24.5MP full-frame BSI CMOS
- กันสั่น 5 แกน 8 สต็อป
- ISO ISO 100 ถึง 64,000 (ขยาย 50-204,800)
- มีสวิตช์ปรับโหมดเฉพาะ ‘ขาวดำ’ บนตัวบอดี้
- ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 14fps (JPEG), 11 (RAW)
- ระบบโฟกัสตรวจจับวัตถุได้ถึง 9 แบบ
- โฟกัสที่มืด -10EV
- 4K/30p (จาก 6K), 4K/60p (Crop), FullHD 120p
- สี10-bit พร้อม N-Log, HLG, HDR
- High-res 32-shot ถ่ายภาพความละเอียดสูง 96 ล้านพิกเซล
- EVF OLED 3.68 ล้านจุด 0.8x
- จอ LCD พับได้รอบทิศระบบสัมผัส 2.1 ล้านจุด
- SD card UHS-II x1, MicroSD x1 (ใส่ช่องเดียวกับแบตเตอรี่ใต้ฐานกล้อง)
- ขนาด 144 x 103 x 49mm
- น้ำหนัก 710 กรัม
- เมาท์ Nikon Z
ราคา
- Nikon Zf ราคาเฉพาะบอดี้ – 82,900 บาท
- Body + Kit 40mm F2 SE – 88,900 บาท
นอกจากนี้ก็ยังมีสีพิเศษที่ซื้อผ่าน Nikon Store ถึง 6 สี ได้แก่ Indigo Blue, Sepia Brown, Bordeaux Red, Sunset Orange, Moss Green, และ Stone Gray ในจำนวนจำกัด ซึ่งแพงขึ้นอีก 100 เหรียญ (ประมาณ 3,600 บาท)
ที่มา: PetaPixel