Gogolook ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นชั้นนำระดับโลก หนึ่งในผู้นำบริษัทด้าน TrustTech ตอกย้ำจุดยืนต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ โทรคมนาคมและการใช้โทรศัพท์เพื่อหลอกลวงในประเทศไทย เปิดเกมธุรกิจเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อต่อต้านการฉ้อโกงขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศ ผ่านกลยุทธ์การนำเครื่องมือและบริการใหม่ๆมาช่วยให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคเพิ่มเกราะป้องกันออนไลน์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายการสร้างเครือข่ายต่อต้านการฉ้อโกงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั่วโลก ตลอดจนการนำเสนอการบริหารความเสี่ยงผ่านรูปแบบบริการ

Gogolook ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่น Whoscall มีเป้าหมายในการสร้างวัฒนธรรมการป้องกันแบบใหม่ โดยการสร้าง Life Protection Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มต่อต้านการฉ้อโกงแห่งแรกของประเทศไทย (Anti-Fraud Platform) นอกเหนือจากการปกป้องผู้คนจากการหลอกลวงทางโทรศัพท์และข้อความในปัจจุบันแล้ว แพลตฟอร์มนี้ยังเตรียมพร้อมที่จะเป็นเกราะป้องกันธุรกิจหรือผู้ประกอบการ รวมถึงผู้บริโภค จากหลอกลวงบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ Web3 สแกมต่าง ๆ รวมไปถึง metaverse อีกด้วย

แมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Gogolook กล่าวว่า “การมอบความคุ้มครองที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือผู้คนจากจากการล่อลวงทางโทรศัพท์ การส่งข้อความ และการฉ้อโกงออนไลน์ มีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากภัยคุกคามเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้หลงเชื่อตลอดจนลุกลามเป็นปัญหาสังคมในวงกว้าง เราจึงได้ต่อยอดและพัฒนาเครื่องมือและบริการที่หลากหลาย โดยการทำงานร่วมกับพันธมิตรในประเทศไทยเพื่อร่วมมือกันสร้างแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นเกราะป้องกันคนไทยจากการถูกล่อลวง และการสร้างสังคมที่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในวงกว้างและเพิ่มความอุ่นใจให้กับคนไทยทุกคน”

จากยอดการดาวน์โหลดทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านครั้ง Whoscall ได้สร้างฐานข้อมูลทางโทรศัพท์ที่มาจากชุมชนผู้ใช้แอปพลิเคชั่นที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค จนถึงปัจจุบัน Whoscall แอปพลิเคชั่นระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จักและป้องกันสแปมแบบเรียลไทม์โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้ Whoscall สามารถบล็อกสายหลอกลวงในประเทศไทยมากกว่า 6.4 ล้านครั้งนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2565 ซึ่งเป็นตัวเลขเทียบเท่ากับจำนวนการบล็อกสายหลอกลวง ในปี 2564 ทั้งปี

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการที่สะดวกสบายมากขึ้น Gogolook ผู้พัฒนาแอป Whoscall ได้พัฒนาแพลตฟอร์มต่อต้านการฉ้อโกงแห่งแรกของประเทศไทย โดยการนำเสนอเครื่องมือและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน การขยายการเข้าถึงระบบตวามปลอดภัย และการนำเสนอบริการพรีเมียม

เครื่องมือและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่จาก Whoscall เพื่อช่วยแก้ปัญหาการฉ้อโกงและหลอกลวง ได้แก่

  • ผู้ช่วยการจัดการ SMS อัจฉริยะ หรือ Smart SMS Assistant (Whoscall พรีเมียม) – ประกอบด้วยการสแกน URL ใน SMS อัตโนมัติเพื่อเตือนและป้องกันลิงก์ที่อาจมีอันตราย และตัวกรอง SMS อัตโนมัติ ขับเคลื่อนด้วย AI จัดเก็บข้อความ SMS อัตโนมัติไปยังหมวดหมู่ต่างๆ ช่วยให้ผู้ใช้จัดการข้อความเพื่อไม่ให้พลาดข้อความสำคัญและป้องกันข้อความหลอกลวงได้
  • Whoscall Number – บริการหมายเลขที่ผ่านการตรวจสอบ (Verified) โดย Whoscall เป็นโซลูชันช่วยระบุตัวตนให้แบรนด์ ธุรกิจและองค์กร ให้เบอร์โทรมีความโดดเด่นขึ้น เพิ่มความไว้วางใจ (trust) และความปลอดภัย (Safety) ให้ผู้รับสายหรือลูกค้า ลดการฉ้อโกงและการโทรหลอกลวง และช่วยให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสื่อสาร รวมถึงยังเพิ่มอัตราการรับสายกับลูกค้า โดยแยกแยะว่าเป็นสายจากการโทรจริงและเป็นสายที่สำคัญไว้ใจได้
  • Rabbit Cash แพลตฟอร์มบริการสินเชื่อดิจิทัล จะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรรายแรกกับ Whoscall สำหรับบริการ Whoscall Number เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจให้กับ ลูกค้าและผู้ใช้ขององค์กร

ความร่วมมือกับพันธมิตร

Whoscall ทำงานร่วมกับภาครัฐเพื่อปกป้องชุมชนและสังคมไทย ประกาศเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ใหม่อย่างเป็นทางการกับ TrueMove H ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ รายแรกของไทยที่ร่วมมือกับ Whoscall เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับการฉ้อโกงจากการโทรและข้อความหลอกลวง ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มเกราะป้องกันสำหรับผู้ใช้ TrueMove H ต่อภัย ข้อความ SMS และสายสแปม รวมถึงสายมิจฉาชีพที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่องโดยผู้ใช้ TrueMove H สามารถโทรหาสายด่วน 9777 เพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามทางไซเบอร์

บริการ Whoscall พรีเมียม

สมาชิก Whoscall พรีเมียมจะได้รับความคุ้มครองขั้นสูงเพื่อการปกป้องที่เหนือกว่า และได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวัน

Whoscall เป็นแอปบริการฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับคุณสมบัติหลักทั้งหมด อาทิเช่น

  • ระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก โชว์ว่าใครโทรมา รู้ทันทุกสายแปลก และช่วยแยกสายสำคัญและสายสแปม
  • ค้นหาหมายเลข ผู้ใช้ Whoscall สามารถค้นหาฐานข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์มากกว่า 1.6 พันล้านหมายเลขทั่วโลกเพื่อระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก

นอกจากการค้นหาหมายเลขและบริการระบุตัวตนผู้โทรที่ไม่รู้จักแล้ว ผู้ใช้ Whocall พรีเมียม ยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์เสริมเช่น บริการบล็อกสายสแปมที่ถูกรายงานเข้ามาบ่อยๆอัตโนมัติ, การอัปเดตฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์อัตโนมัติ และ การสแกน URL .ในข้อความ SMS อัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้ปลอดภัยจากลิงก์หลอกลวง รวมถึงการใช้งานแบบไม่มีโฆษณาอีกด้วย

แพคเกจ Whoscall premium พร้อมให้บริการในราคา 59 บาทต่อเดือน หรือ 599 บาทต่อปี

เพื่อฉลองแคมเปญ Whoscall โชว์เบอร์แปลก รู้ทันทุกสาย ผู้ใช้ที่ไม่เคยสมัคร Whoscall พรีเมียม รับไปเลยส่วนลดสุดพิเศษ 30% ทัน ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2565 – 8 ก.ค. 2565

นอกจากนี้ Gogolook ยังได้ยกระดับกิจกรรมการสร้างความตระหนักรู้ผ่านแคมเปญ ‘Whoscall โชว์เบอร์แปลก รู้ทันทุกสาย’ เพื่อประกาศจุดยืนในการสร้างเกราะคุ้มกันให้กับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ และเพื่อให้คนไทยปลอดภัยจากการหลอกลวงและการโทรรบกวน ในยุคที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาระดับชาติ ตามรายงานประจำปีของ Whoscall 2564  มีสายมิจฉาชีพในประเทศไทยมากกว่า 6.4 ล้านครั้ง ถึงแม้Whoscallจะได้รับความนิยมและมีการดาวน์โหลดมากกว่า 100 ล้านครั้งใน 31 ประเทศ แต่ยังมีคนไทยอีกจำนวนมากที่ยังคงไม่ได้รับการป้องกัน จากตัวเลขการหลอกลวงดังกล่าวถือเป็นความท้าทายของ Whoscall ในการสื่อสารเพื่อเข้าถึงคนไทยทั่วประเทศรวมถึงผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี ให้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันตนเองที่ง่ายดายและปลอดภัยยิ่งขึ้น จากการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ

แคมเปญ “Whoscall โชว์เบอร์แปลก รู้ทันทุกสาย” ที่ร่วมกับครีเอทีฟเอเจนซี่ Sour Bangkok เปลี่ยนฟังก์ชัน  ‘รู้’ เบอร์แปลกของแอปให้กลายเป็นความ ‘รู้ทัน’ ที่เหนือกว่า โดยเลือกสื่อสารให้ครอบคลุมหลายแพลตฟอร์ม เพื่อเข้าถึงวิถีการดำเนินชีวิตประจำของคนไทย โดยจะมีการเปิดตัวภาพยนตร์เว็บโดย ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับที่ได้รับการการันตีด้วยรางวัลมากมาย ที่ถ่ายทอดความเข้าใจอันแท้จริงของเขาที่มีต่อความเข้าใจอินไซท์ของคนไทย นอกจากภาพยนตร์เว็บยังมีสื่อต่างอีกมากมายเช่นป้าย Stunt ที่แสดงให้เห็นว่าใครอยู่เบื้องหลังการโทร และการเตือนของ BTS ที่ปรับแต่งการเตือนหมายเลขที่ไม่รู้จักในแต่ละสถานี ซึ่งกิจกรรมไฮไลท์เหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหาการฉ้อโกงบนมือถือในประเทศไทย และผลักดันให้ Whoscall ไม่เพียงแต่เป็นแอปพลิเคชั่นระบุตัวตนผู้โทรที่ไม่รู้จักเท่านั้น แต่ยังเป็น Life Protection Platform สำหรับคนไทยทุกคนอีกด้วย

นอกจากนี้ Whoscall ยังร่วมมือกับ True ID, Rabbit Cash, Big C, Buzzbees, VGi และ Sale Here เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยได้ทดลองใช้ Whoscall Premium ฟรี สำหรับสมาชิกใหม่

Gogolook ยังได้ผสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย กองตำรวจสืบสวนอาชญากรรมประเทศไต้หวัน หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินประเทศเกาหลีใต้ และรัฐบาลเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น

เพื่อต่อสู้กับการหลอกลวง และท้ายที่สุดเพื่อสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่น่าเชื่อถือทั่วโลก

“การต่อสู้กับการฉ้อโกงจะต้องรวดเร็วและอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งในแต่ละวันมีการหลอกลวงและการฉ้อโกงใหม่ๆที่มุ่งเป้าไปที่คนไทย ทำให้เกิดความเครียดและความกลัวเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญคือเราต้องทำงานร่วมกับพันธมิตรและผู้ใช้แอปพลิเคชั่นของเรา ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ และสร้างภูมิคุ้มกันที่สามารถปกป้องเราทุกคนจากการตกเป็นเหยื่อ เราหวังว่าเครื่องมือและบริการที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องเหล่านี้จะสามารถช่วยเหลือคนไทยในการต่อสู้กับการฉ้อโกงและการหลอกลวงในทุกๆ วัน” ฐิตินันท์ สุทธินราพรรณ หัวหน้าฝ่ายการตลาด Gogolook ประเทศไทย กล่าวเสริม

Gogolook เป็นบริษัทผู้ทางด้านเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (TrustTech) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 โดยมีพันธกิจหลักคือสร้างความเชื่อมั่น “Build for Trust” ให้บริการทางด้านสื่อสารในหลายรูปเพื่อมุ่งเน้นในการต่อต้านการฉ้อโกง จนถึงบริการด้านFin-Tech และ SaaS บริษัทใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data-driven) ในการสร้างระบบเครือข่ายการต่อต้านการฉ้อโกงและการบริหารจัดการในด้านความเสี่ยง เพื่อการสื่อสารที่เราทุกคนสามารถเชื่อถือได้และ ไว้วางใจได้ทั่วโลก

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Whoscall ได้ฟรีจาก App Store และ Google Play Store ที่ลิ้งค์ https://whoscallthailand.onelink.me/1Ffj/downloadnow