ลาซาด้า ประเทศไทย ชูไฮไลต์แบรนด์แฟชั่นไทย แคมเปญ 12.12 เซลลดแรงส่งท้ายปี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 – 14 ธันวาคม นี้ หลังแบรนด์ไทยได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหมู่นักช้อป พร้อมตอกย้ำการเป็นแหล่งรวมไอเทมแฟชันยอดฮิต ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยที่มองหาตัวเลือกสินค้าหลากหลาย รวมถึงดีไซน์ดีมีคุณภาพในราคาจับต้องได้
ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ ลาซาด้าเตรียมจับมือแบรนด์ไทยกว่า 40 แบรนด์ ขนทัพไอเทมใหม่ล่าสุดมาอวดโฉมบนรันเวย์ในงาน Search for Style Party ซึ่งจะจัดขึ้น ณ ใจกลางสยามสแควร์ พร้อมชวนนักช้อปร่วมค้นหาร้านค้าใหม่ ๆ และสินค้าสไตล์ดีราคาโดน บน Lazada FASHION (เดิมชื่อ LazLOOK) ผ่านฟีเจอร์ Image Search บนแอปพลิเคชันลาซาด้า โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกช้อปตามลุคที่ชอบได้ง่ายๆ เพียงถ่ายรูปไอเทมที่ถูกใจผ่านแอปฯ ผลการค้นหาก็จะแนะนำสินค้าที่เหมือนหรือใกล้เคียงกัน พร้อมให้กดลงตะกร้าได้ในทันที
แบรนด์แฟชั่นไทยถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ติดอันดับขายดีในหมวดแฟชั่นบนลาซาด้าอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับกระแสการสนับสนุนแบรนด์ในประเทศของเหล่านักช้อปไทย ล่าสุดใน 24 ชั่วโมงแรกของเมกะแคมเปญ 11.11 เซลใหญ่สุดอลังแห่งปี ร้านค้าในหมวดหมู่แฟชั่นมียอดขายเพิ่มขึ้นสูงถึงเกือบ 50 เท่า โดยแบรนด์ไทยบน Lazada FASHION อย่าง Rally Movement ได้ยึดตำแหน่งยอดขายอันดับต้นๆ ในวันแรกของแคมเปญ กับเสื้อโปโลทรงคลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ นอกจากนี้ แบรนด์ไทยอย่าง Merge และ Mitr ยังติดอันดับสินค้าขายดีในหมวดแฟชั่นอีกด้วย
ชยพร ลัทธิโสภณกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า “ที่ผ่านมามีแบรนด์ไทยจำนวนไม่น้อยที่หันมาใช้แพลตฟอร์มของลาซาด้าในการสร้างธุรกิจบนโลกออนไลน์ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงฐานลูกค้านักช้อปสายแฟจากทั่วประเทศที่ชื่นชอบและติดตามเทรนด์ใหม่ๆ โดยแบรนด์เหล่านี้ได้ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยในการค้นหา (search technology) รวมถึงเครื่องมือและโซลูชันด้านการตลาดของลาซาด้า เข้ามาช่วยเพิ่มการมองเห็น ทำให้นักช้อปค้นพบสินค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการโปรโมตสินค้าและสร้างปฎิสัมพันธ์กับลูกค้า ในขณะที่นักช้อปไทยเองก็รับรู้ถึงเทรนด์เหล่านี้ และพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ในแวดวงแฟชั่น ซึ่งลาซาด้าก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้ผู้ขายสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน”
“ลาซาด้ามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และผู้ประกอบการรายย่อยของไทยในการต่อยอดธุรกิจในโลกดิจิทัล ผ่านความร่วมมือและการสนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ โดยลาซาด้าเชื่อว่า เรามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสำเร็จของธุรกิจในประเทศ ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของระบบนิเวศดิจิทัลของประเทศไทย” ชยพร กล่าวเสริม
วิจัยด้านผู้บริโภคระบุว่า นักช้อปไทยให้ความสำคัญกับคุณภาพและความสะดวกสบาย เมื่อเลือกซื้อสินค้าในประเทศ โดย 63% มองว่าราคาสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์แฟชั่นออนไลน์1 และเกือบ 50% มีแรงจูงใจในการเลือกซื้อแบรนด์ไทยที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย2 นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคไทยเห็นว่า การสนับสนุนสินค้าแบรนด์ไทยเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ 47% รู้สึกภาคภูมิใจในการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศ2 และคนไทยกว่า 2 ใน 5 เห็นว่าการสนับสนุนสินค้าในประเทศมีความสำคัญมากขึ้นตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-192 โดยลาซาด้าสนับสนุนและขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ SMEs ในไทยอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้บรรดาธุรกิจเหล่านี้สามารถต่อยอดช่องทางออนไลน์ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ
ความมุ่งมั่นของลาซาด้าสะท้อนให้เห็นได้จากหลากหลายความร่วมมือกับหน่วยงานที่สำคัญของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือล่าสุดกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.)เพื่อติดปีกทักษะดิจิทัล ให้ผู้ประกอบการวัยเก๋า และกลุ่มเปราะบาง อาทิ แม่เลี้ยงเดี่ยว และผู้พิการ เช่นเดียวกับโครงการที่ร่วมกับกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการชุมชน นอกจากนี้ ลาซาด้ายังทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ประกอบการ SMEsท้องถิ่นจากทั่วประเทศ เพื่อเปิดโอกาสนำสินค้าขึ้นแพลตฟอร์มออนไลน์ อีกทั้งยังร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่น พร้อมยกระดับทักษะและช่วยเหลือผู้ขายสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน
เพื่อเพิ่มการมองเห็นให้กับแบรนด์และผู้ขายในหมวดแฟชั่น ลาซาด้าได้เปิดตัว Lazada FASHION ในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2564โดยแหล่งรวมสินค้าแฟชั่นหลากหลายสไตล์บนโลกออนไลน์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดนักช้อป Gen Zชาวไทยที่ชื่นชอบการติดตามเทรนด์ใหม่ๆ และ Lazada FASHIONจะเป็นไฮไลต์ของเมกะแคมเปญ 12.12 เซลลดแรงส่งท้ายปี ด้วยเช่นกัน
แชะ ค้นหาลุคที่ชอบ สไตล์ดีราคาโดนที่ Lazada FASHION
ฟีเจอร์ค้นหาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักช้อปได้ค้นพบผู้ขายใหม่ๆ และกลายมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้ โดยผลการสำรวจระบุว่า 92% ของนักช้อปไทยตัดสินใจซื้อสินค้าที่พวกเขาพบจากฟังก์ชันการค้นหาบนลาซาด้า1 ในแคมเปญ 12.12 นี้ นักช้อปสามารถใช้ฟีเจอร์ Image Search ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาทำให้การค้นหาสินค้าแฟชั่นจากผู้ขายและแบรนด์ต่างๆ เป็นเรื่องสะดวกยิ่งขึ้น เพียงนำรูปภาพไอเทมที่ต้องการมาสแกน ผลการค้นหาก็จะแนะนำสินค้าที่ใกล้เคียงกันมาให้ ทำให้นักช้อปที่ชอบติดตามเทรนด์ใหม่ๆ สามารถเข้าถึงสินค้าแฟชั่นได้ง่ายยิ่งขึ้น จากการช้อปลุคที่ชอบ และเลือกไอเทมที่ใช่ จากตัวเลือกสินค้าหลากหลาย
ช้อปแบรนด์ไทย สไตล์ดีราคาโดน ส่งตรงจากรันเวย์
ลาซาด้าเตรียมจับมือแบรนด์และผู้ขายไทย ขนทัพไอเทมสุดฮ็อตมาอวดโฉมบนแคตวอล์คในงาน Search for Style Party เพื่อเฉลิมฉลองเมกะแคมเปญ 12.12และร่วมสนับสนุนแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น พร้อมพบกับศิลปินและเซเลบริตี้แถวหน้าของไทย ลาซาด้าแฟมิลี่ นำทีมโดย เบลล่า-ราณี, วิน-เมธวิน, เจมีไนน์-นรวิชญ์, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์, ซี-พฤกษ์, นุนิว-ชวรินทร์ และ เต-ตะวัน ปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตจาก ไบร์ท-วชิรวิชญ์, บิวกิ้น-พุฒิพงศ์, พีพี-กฤษฏ์, 4EVE และBUSbecause of you i shine
ผู้ร่วมงานสามารถสัมผัสประสบการณ์ช้อปแบบเรียลไทม์ ผ่านการค้นหาลุคบนรันเวย์ เพิ่มลงตะกร้า และซื้อสินค้าได้โดยตรงจากฟีเจอร์ Image Searchบนแอปฯ ลาซาด้า
เตรียมช้อปจัดเต็ม กับดีลสุดปัง ครั้งสุดท้ายของปี
แคมเปญ 12.12 เซลลดแรงส่งท้ายปี ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12-14 ธันวาคม 2566 มาพร้อมกับดีลและโปรโมชันสุดปัง ให้นักช้อปได้เต็มอิ่มกับความพิเศษจากหลากหลายสินค้าครอบคลุมทุกความต้องการ ตลอดทั้ง 3 วัน ดังนี้
- LazFlash Extra ลดราคาจัดหนักถึง 90%
- คูปอง 12.12 ลดสูงสุด 10,000 บาท
- คูปองส่วนลดสูงสุด 50%
- Crazy Brand Mega Offers: รับส่วนลุดสูงสุดถึง 90% เมื่อซื้อสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำบน LazMall ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่เที่ยงคืน – ตีสอง ของวันที่ 12 ธันวาคม
- Pre-Sale: ปลดล็อคดีลที่ดีที่สุดจากแบรนด์ชั้นนำบน LazMall เพียงจองสินค้าล่วงหน้า ด้วยการชำระค่ามัดจำตั้งแต่วันที่ 1 – 11 ธันวาคม และชำระส่วนที่เหลือระหว่างวันที่ 12 – 14 ธันวาคม
1 Lazada (2022). “Transforming Southeast Asia – From Discovery to Delivery report”
2 MINTEL (2021). “Local pride: 51% of Thais say buying local products is an efficient way to boost the nation’s economy”