เมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ตซิตี้ (Smart City) เป็นรูปแบบการประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลและการสื่อสารในการเพิ่มประสิทธิการบริหารจัดการเมืองและคุณภาพของบริการชุมชน เพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่อาศัยในคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สมาร์ตซิตี้เป็นโครงการที่หลายๆ เมืองทั่วโลกพยายามพัฒนาให้เข้ากับยุค 4.0 โดยการเอาเทคโนโลยีมาผสานกับการใช้ชีวิตของประชาชน ไม่ว่าจะทั้งด้านการขนส่ง การใช้พลังงาน ด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อม หรือโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะทำให้เมืองมีความสะดวกสบาย ปลอดภัยน่าอยู่อาศัย และทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข
ซิสโก้ ผู้นำด้านเทคโนโลยีและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระดับโลก และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) สถาบันการศึกษาระดับแถวหน้าของประเทศไทย ร่วมพัฒนาเมืองอัจฉริยะโดยนำร่องพัฒนาพื้นที่ในเขตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ด้วยงบประมาณ Big Rock ภายใต้แนวคิด “PSU Smart and Green Campus 2022 เพื่อสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต และ Happy Workplace” เพื่อเป็นโมเดลการพัฒนาสู่เมืองยุคใหม่ที่พร้อมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนาบุคลากรดิจิทัลเพื่อสร้างสรรค์เมืองอัจฉริยะให้สมบูรณ์แบบในทุกมิติ และเพิ่มโอกาสให้คนในท้องถิ่นได้พัฒนาชุมชนของตนเองอย่างยั่งยืนโดยการสร้างรายได้กลับมาให้ชุมชนจากทรัพยากรที่มีอยู่
โซลูชันนำร่องของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) พัฒนาใช้จริงในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยภายใต้แนวคิด “PSU Smart and Green Campus 2022 เพื่อสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต และ Happy work place” มีพันธกิจที่ครอบคลุม 4 ส่วนหลักคือ วิทยาเขตที่ปลอดภัย (Safe and Secured Campus), สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน (Green & Sustainable), ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตกับ Sharing Economy และ สังคมที่มีสุขภาพดี (Healthy Society) ซึ่งจะดำเนินการในเฟสที่ 2 ปัจจุบันมีการติดตั้งและใช้งานระบบในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่ ซึ่งสามารถจัดหมวดหมู่ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ดังนี้:
- Smart People
- มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการจัดสร้าง Learning Space เพื่อรวบรวมเครื่องมือเรียนรู้ที่ทันสมัย ได้แก่ 3D Printer, 3D Scanner, Robot และแหล่งเรียนรู้ระดับโลกร่วมกับผู้นำด้านเทคโนโลยีและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตระดับโลก เช่น Cisco Academy, DevNet เป็นต้น
- Smart Environment
- มีการติดตั้งระบบเฝ้าระวังคุณภาพของอากาศ เช่น PM2.5 ตรวจวัดความชื้น ทิศทางลม และสภาพแวดล้อมทางน้ำ รวมทั้งได้ขยายพื้นที่ดำเนินการ โดยร่วมมือกับเทศบาลนครหาดใหญ่ติดตั้งระบบเฝ้าระวังลุ่มน้ำ และแก้มลิงโดยรอบเมืองและภายในเทศบาลนครหาดใหญ่ เพื่อใช้เตือนภัยในฤดูฝน
- Smart Energy
- Smart Lighting หลอดไฟ LED ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ตรวจวัดระดับความเข้มแสง และควบคุมอัตโนมัติ สามารถ dim ไฟลง เมื่อไม่มีการใช้งาน ทำให้ประหยัดไฟ รวมถึงทราบการใช้พลังงาน (energy usage monitoring)
- การใช้งาน รถโดยสารสาธารณะ EV และให้บริการจุดจอดรถ พร้อมที่ชาร์จแบบไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้งานรถพลังงานสะอาด
- Smart Mobility
- มีระบบ smart transportation ที่สามารถแสดงตำแหน่งของรถโดยสาร EV ทำให้นักศึกษาสามารถทราบเวลาของรถที่จะมาถึงจุดจอดได้แบบเรียลไทม์
- Smart Living
- มีระบบรักษาความปลอดภัยให้กับบุคลากรและนักศึกษาภายในวิทยาเขต ผ่านระบบ ไม้กั้น ที่ตรวจสอบ RFID long range ที่ถูกใช้เป็นบัตรของบุคลากร เพื่อตรวจสอบการเข้าออกมหาวิทยาลัย ร่วมกับระบบกล้อง จับป้ายทะเบียน และการติดตาม เฝ้าระวังรถต้องสงสัยแบบ Real-time analytic and warning system
- Smart pole เสาไฟอัจฉริยะที่ประกอบด้วยสิ่งจำเป็นสำหรับการเป็นโครงสร้างพื้นฐานบนท้องถนนในอนาคตประกอบด้วย WiFi, Signage, Camera, Weather sensors, Dust sensors, EV Charger and Emergency button
- Smart Parking ติดตั้งเซนเซอร์และระบบเพื่อแสดงจุดจอดรถที่ยังว่างในพื้นที่วิทยาเขต ทำให้ผู้มาติดต่อหรือบุคลากรสะดวกในการหาที่จอดรถ ลดพลังงานเชื้อเพลิงที่สิ้นเปลืองจากการขับรถวนหาที่จอด
- ระบบกระจายข้อมูลสื่อสารผ่าน Digital content ไปยังตู้ Digital signage ที่สามารถควบคุมและสั่งการได้แบบเรียลไทม์ จัดแบ่งกลุ่มการบริหารจัดการ เชื่อมโยงเข้าสู่ IoT Platform
- Smart Economy
- เนื่องจากมหาวิทยาลัยอยู่ในพื้นที่ จึงมีการจัดทำฟาร์มต้นแบบ smart farm ร่วมกับคณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำการเกษตรแบบปราณีต เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลผลิตทางการเกษตร โดยให้สามารถเพาะเลี้ยงผลไม้ ผลผลิตการเกษตรได้อย่างแม่นยำ ในที่นี้มีการเพาะเลี้ยง Melon ที่สามารถรองรับการสั่งตัดความหวาน และขนาดของผล ทราบระยะเวลาของการเลี้ยง การตัดผลผลิต และขนส่งให้พอดีกับความอร่อยที่ลูกค้าต้องการ ปัจจุบัน ขยายผลไปยังแปลงสาธิตของคณะทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่คลองหอยโข่ง เพื่อเป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับประชาชน
- Research Market Platform ร่วมกับ Startup ในพื้นที่ในการสร้าง Platform online ที่สามารถช่วยให้เกิดการ Matching ระหว่างนักประดิษฐ์กับเอกชนหรือภาคอุตสาหกรรมที่แสวงหานวัตกรรมในประเทศ
- Smart Utility
- Intelligent Operating Centre (IoC) เป็นศูนย์บัญชาการและควบคุมกลาง โดยเชื่อมระบบทั้งหมดของ Smart เข้าสู่การติดตาม สั่งการ โดยปกติระบบคอมพิวเตอร์จะทำงานโดยอัตโนมัติ และมีห้องเพื่อให้ผู้ดูแลได้เห็นสภาพการทำงานโดยรวมของระบบทั้งหมด
- City Data Platform เป็นการสร้าง Data Adapter เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลจากหน่วยงานและฝ่ายต่างๆ เข้าสู่ City Data Platform ทำให้สามารถเชื่อมข้อมูลในระบบเดิม และระบบใหม่เข้าด้วยกัน และรองรับการวิเคราะห์ ประมวลผลสำหรับเมืองในอนาคต ได้แก่ นำไปใช้ในการวางผังเมือง การวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ของเมืองเป็นต้น
โซลูชั่นของซิสโก้ ไม่ว่าจะเป็น เน็ตเวิร์กหลัก (core network) แพลตฟอร์มไอโอที (IoT) ที่ใช้เทคโนโลยีซิสโก้เป็นฐาน ทำให้การเชื่อมต่อแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์มีความปลอดภัย และความสามารถในการบริหารจัดการที่ดีขึ้น เป็นรากฐานของมหาวิทยาลัยในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น เพื่อสร้างโมเดลเมืองอัจฉริยะที่เป็นต้นแบบการพัฒนาเมืองแห่งอนาคตในทุกมิติ
นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยของซิสโก้ กล่าวว่า “การพัฒนาไปสู่เมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ตซิตี้ โดยทำให้เมืองมีความชาญฉลาดนั้น การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการยกระดับเมืองให้เป็นเมืองอัจฉริยะ อย่างไรก็ตามต้องมีการจัดลำดับว่าพื้นที่ส่วนไหนต้องเร่งพัฒนาด้านใดเพื่อสอดคล้องกับเอกลักษณ์ วิถีพื้นถิ่น และแผนกลยุทธ์การพัฒนาของเมืองนั้นๆ ซิสโก้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในหลายๆ ประเทศ เรามีความเชื่อมั่นในการนำเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานหรือ Core Network และดาต้าเซ็นเตอร์ที่ออกแบบเพื่อการใช้งาน AI ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาต่อยอดสมาร์ตโซลูชั่นและแอปพลิเคชันต่างๆ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์มาช่วยในการตอบโจทย์การสร้างสมาร์ตซิตี้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้สมาร์ตซิตี้จะขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วไม่ได้ถ้าขาดบุคลากรที่เข้าใจเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซิสโก้มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเพิ่มพูนทักษะความเชี่ยวชาญให้แก่บุคลากรของ ม.อ. อย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการ Cisco Network Academy ที่ให้ความรู้เบื้องต้นทางด้าน IoT และ DevNet ซึ่งให้ความรู้เฉพาะทางด้านเน็ตเวิร์กจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถทางด้านเน็ตเวิร์กด้วยเทคโนโลยีของซิสโก้ โดยซิสโก้ได้จัดการอบรม แบ่งปันความรู้และทักษะให้กับบุคลากรของ ม.อ. เพื่อรองรับความต้องการของโลกดิจิทัลในอนาคต”
“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Co-Innovation ของซิสโก้ในการร่วมพัฒนาโซลูชั่นที่มีความหมายและสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ร่วมกับภาครัฐและเอกชน และเราภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในอีโคซิสเต็มส์ของนวัตกรรมและการพัฒนาครั้งนี้”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) กล่าวว่า “ทางมหาวิทยาลัยฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ซิสโก้มาเป็นพันธมิตรช่วยผลักดันและร่วมพัฒนาเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นรากฐานและเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เพื่อการพัฒนาต่อยอดการสร้างสมาร์ตโซลูชั่นต่างๆ โดยหนึ่งในวาระเร่งด่วนคือการพัฒนาเมืองอัจฉริยะไปทั่วประเทศทั้งกลุ่มเมืองเดิมที่ต้องปรับปรุงให้น่าอยู่ และอัจฉริยะมากขึ้น และกลุ่มเมืองใหม่ที่จะต้องออกแบบให้สมบูรณ์ ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตามลักษณะของเมืองอัจฉริยะ 7 ด้าน ที่ประกอบด้วย
- สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment)
- เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy)
- ขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility)
- พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy)
- พลเมืองอัจฉริยะ (Smart People)
- การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living)
- การบริหารภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance)
จากการที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ซึ่งรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับ 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อให้แต่ละเมืองได้เห็นโมเดลรูปแบบการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเมืองและนำไปปรับใช้กับพื้นที่เขตความรับผิดชอบของตน ความร่วมมือระหว่างซิสโก้และ ม.อ. นับเป็นการตอบโจทย์การสร้างโมเดลสมาร์ตซิตี้ให้เป็นต้นแบบการพัฒนาเมืองแห่งอนาคตที่มีความสมดุลในทุกมิติ ซิสโก้มีส่วนช่วย ม.อ. ในการพัฒนานวัตกรรมสมาร์ตโซลูชั่น แพลตฟอร์ม IoT และเติมเต็มความสามารถทางดิจิทัลของบุคลากรเราเพื่อการพัฒนาสมาร์ตซิตี้ที่เป็นไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์”
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส