เส้นทางแห่งเสียงหัวเราะที่อยู่กับคนไทยมาเกือบครึ่งศตวรรษ ขายหัวเราะได้ก้าวมาถึงฉบับที่ 1,500 แล้ว โดย นิว-พิมพ์พิชา อุตสาหจิต Executive Director กลุ่มบริษัทเครือบันลือกรุ๊ป พูดถึงหลักในการทำงานของขายหัวเราะตลอดมาว่า ขายหัวเราะตั้งใจที่จะเป็นแบรนด์ที่สร้างความสุข รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะให้ทุกคน จึงไม่ได้จำกัดรูปแบบให้ตัวเองเป็นหนังสือการ์ตูนเท่านั้น แต่ขายหัวเราะสามารถเป็นได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นคอนเทนต์ที่พร้อมไปอยู่ในสื่อทุกช่องทาง เป็นสินค้าทุกประเภท ซึ่งนอกจากอารมณ์ขันแล้ว การ์ตูนและตัวคาแรกเตอร์ของขายหัวเราะยังสามารถเป็นสื่อกลางในเรื่องอื่นๆ นอกจากความบันเทิง เช่น เป็นสื่อ Edutainment เติมสีสันให้การศึกษา หรือแม้แต่วงการการตลาด โฆษณา การเงิน การแพทย์ ล้วนเล่าผ่านการ์ตูน และอารมณ์ขันสไตล์ขายหัวเราะที่แฟนๆ ชื่นชอบได้ทั้งนั้น ด้วยจุดเด่นของขายหัวเราะคือ ความสามารถเล่าเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย และสนุกสนาน รวมถึงความเข้าใจรสนิยมของชาวไทยเป็นอย่างดี จากการสั่งสมประสบการณ์ทำงานใกล้ชิดแฟนๆ มาอย่างยาวนาน
“ทุกครั้งเมื่อถูกถามถึงเป้าหมายในอนาคตของขายหัวเราะ นิวมักจะตอบว่า ทุกอย่างในจักรวาลของการ์ตูน อารมณ์ขัน ตัวคาแรกเตอร์ และ storytelling คือ ดินแดนที่ขายหัวเราะเชี่ยวชาญ และไปอยู่ได้ทั้งหมด จึงอยากให้ติดตามกันไปเรื่อยๆ ขายหัวเราะจะ ‘เพิ่มความสุข กระจาย เสียงหัวเราะ’ ให้ดังไกล และแปลกใหม่ขึ้นกว่าเดิมแน่นอนในอนาคต”
ซึ่งในโอกาสพิเศษที่ขายหัวเราะได้ตีพิมพ์มาถึงฉบับที่ 1500 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเดินทางแสนพิเศษอันยาวนานนี้ร่วมกับแฟนๆ ที่ได้รับเสียงหัวเราะ แรงบันดาลใจ และเติบโตผูกพันกับขายหัวเราะ ทำให้ขายหัวเราะอยู่เคียงคู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ขายหัวเราะจึงได้จัดทำฉบับพิเศษ ด้วยขายหัวเราะฉบับ 1500 “You’ll Never Laugh Alone หัวเราะด้วยกัน ไม่มีวันเดียวดาย”
พิมพ์พิชา อุตสาหจิต พูดถึงความพิเศษในฉบับที่ 1500 “You’ll Never Laugh Alone หัวเราะด้วยกัน ไม่มีวันเดียวดาย” ว่า นอกจากทีมนักเขียนขายหัวเราะที่แฟนๆ คุ้นเคยกันดีแล้ว ขายหัวเราะยังได้ชวนบุคคลสำคัญ หรือ บุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ ศิลปิน ดารา กว่า 70 คนที่มีขายหัวเราะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการวาดรูป การอ่าน และความคิดสร้างสรรค์ มาร่วมรังสรรค์แก๊กการ์ตูนสไตล์ขายหัวเราะ รวมถึงคอลัมน์ต่างๆ ทั้งเรื่องสั้น ขำขัน หักมุมมัดยิ้ม ฯลฯ ในแบบเฉพาะของตัวเอง อาทิ คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ, คุณวินทร์ เลียววาริณ นักเขียนซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ , หนุ่มเมืองจันท์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง, งามพรรณ เวชชาชีวะ นักเขียนซีไรต์, วิศุทธิ์ พรนิมิตร เจ้าของคาแรกเตอร์ดัง น้องมะม่วง,ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับโฆษณาแถวหน้าของโลก, พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์รายการธรรมะเดลิเวอรี่ ร่วมด้วย โจอี้ บอย, สิงโต นำโชค, ปิงปอง ศิรศักดิ์, แม็กซ์ เจนมานะ,สอง Paradox, ทับทิม มัลลิกา, เต๋อ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์, ตั๊ก บริบูรณ์ และเหล่านักวาด มุนิน, เดอะดวง, นัดเป็ด, อาร์ต จีโน, นวล ฯลฯ รวมแล้วเป็นจำนวนศิลปินกว่าร้อยชีวิตในฉบับนี้ และพิเศษยิ่งกว่าด้วยรูปเล่มที่จัดทำขนาดใหญ่พิเศษเพื่อเก็บสะสม ซึ่งรับรองว่า ความพิเศษเหล่านี้ แฟนๆ จะไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งจากขายหัวเราะและจากศิลปินรับเชิญด้วย
“ไอเดียของการชวนบุคคลจากแวดวงต่างๆ มาร่วมกันเขียน เกิดจากที่ เวลาได้คุยกับคนในแวดวงต่างๆ ทั้งนักคิด นักเขียน ศิลปิน ดารา หลายท่านมักบอกว่าโตมากับขายหัวเราะ มีขายหัวเราะเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการอ่าน การเขียน การอยากวาดรูป การสร้างสรรค์ผลงาน หลายคนถึงขนาดบอกว่าเคยส่งแก๊ก เรื่องสั้น ขำขันต่างๆ มาให้บ.ก.พิจารณาด้วย ทีมงานเลยมาคิดต่อว่าจะเป็นอย่างไรถ้าในฉบับพิเศษ 1500 นี้ จะชวนพวกเขามาวาดแก๊ก Signature ของขายหัวเราะ ทำให้เราอยากเห็นมากๆ ว่าเรื่องราวของขายหัวเราะเมื่อเล่าผ่านคนที่โตมากับเรา มีเราเป็นแรงบันดาลใจ เขาจะเล่าอย่างไร และมันจะออกมาเป็นแบบไหน และเชื่อว่าแฟนๆ ทุกคนก็อยากเห็น ร่วมฮาไปด้วย อินไปด้วยกันได้เช่นกัน” พิมพ์พิชา กล่าวทิ้งท้าย
ทางด้านกชกร มโนชญากร หรือ ‘Pop Mhan’ นักวาดการ์ตูนไทยสายอินเตอร์ ผู้เคยร่วมงานกับ MARVEL COMICS และ DC COMICS มาแล้วพูดถึงการทำงานร่วมกับขายหัวเราะครั้งนี้ว่า รู้สึกมีความสุขและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้วาดตัวละครของขายหัวเราะ เพราะคิดถึงผูกพันที่ได้เห็นตัวละครเหล่านี้ และรู้ว่าตัวละครทั้งหมดยังคงสร้างความสุขมหาศาลแด่ผู้อ่าน ตัวเองเติบโตที่สหรัฐอเมริกา ได้เริ่มอ่านขายหัวเราะมาก่อนที่จะอ่านการ์ตูนฝั่งอเมริกาเสียอีก เมื่อไหร่ที่ได้อ่านก็จะพยายามอ่านให้มากที่สุด มีให้คุณยายช่วยอ่านในส่วนที่อ่านไม่ออกบ้าง ถือได้ว่า ขายหัวเราะยังช่วยสอนให้ได้เรียนรู้ภาษาไทยไปในตัวด้วย
ส่วน ทับทิม มัลลิกา จงวัฒนา ดาราสาวที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อแรงบันดาลใจผ่านการ์ตูนกล่าวว่า ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อมา รู้สึกตื่นเต้น และเป็นเกียรติมากๆ ถึงขนาดดีใจในกลุ่มไลน์ครอบครัว เพราะทุกคนในครอบครัวอ่านขายหัวเราะมาตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ สำหรับผลงานชิ้นนี้ทับทิมตั้งใจมาก คิดมุกอยู่ 3 วัน วาดอีก 3 วัน เข้าใจชีวิตนักเขียนการ์ตูนเลยว่า กว่าจะได้ 1 แก๊ก ก็ยากอยู่เหมือนกัน ยากตรงที่ต้องคิดแก๊กที่คนอ่านต้องเข้าใจด้วยและตลกกับมันด้วย
“ทับทิมเคยส่งจดหมายหาพี่เอ๊าะคนวาดหนูหิ่นด้วย เป็นแฟนคลับมาก ครอบครัวทับทิมมีพี่น้อง 4 คน ทุกคนจะเวียนกันซื้อขายหัวเราะ รวมถึงมหาสนุก หนูหิ่น สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่ ด้วย พวกเรามีประสบการณ์ที่ดีมากๆ กับขายหัวเราะ เป็นสิ่งหนึ่งที่เติมเต็มความสุขในวัยเด็ก คิดถึงสมัยที่แบ่งๆ กันอ่าน หัวชนกันกับพี่ๆ น้องๆ ได้หัวเราะไปด้วยกัน ขอบคุณความสุขที่มอบให้ตลอด”
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ขายหัวเราะอยู่คู่ครอบครัวชาวไทยทั่วทุกมุมบ้าน ห้องรับแขก ห้องครัว ยันห้องน้ำ สมฉายาที่แฟนๆ และสื่อมวลชนเรียกว่า ‘ความฮาสามัญประจำบ้าน’ ซึ่งสาเหตุที่ขายหัวเราะยังคงทำให้คนไทยอารมณ์ดีได้ทุกยุคทุกสมัยนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการปรับตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง ที่สำคัญคือขายหัวเราะเป็นเหมือนหนึ่งหมุดหมายบันทึกเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่เคยพลาดประเด็นในสังคม ซึ่งขายหัวเราะสามารถถ่ายทอดให้สนุกและเฉียบคมได้เสมอ ทั้งยังรักษามาตรฐานได้อย่างดีแม้พฤติกรรมผู้อ่านจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
โดยขายหัวเราะฉบับพิเศษ ฉลอง 1500 ฉบับนี้เป็น Limited Edition จัดพิมพ์จำนวนจำกัด สำหรับแฟนๆขายหัวเราะสามารถสั่งจองขายหัวเราะฉบับพิเศษนี้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทาง kaihuaror.com/1500 หรือสามารถหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือทั่วไปตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์