LINE ประเทศไทย เปิดเผยความสำเร็จการพัฒนาแพลตฟอร์มในปี 63 มุ่งสนับสนุนคนไทยปรับตัวในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และการดำเนินธุรกิจ พร้อมข้อมูลการใช้งานในฐานะแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งครองใจคนไทย 47 ล้านคน ตอกย้ำจุดยืน Life Infrastructure ที่นำเสนอบริการหลากหลาย พร้อมเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ New Normal Lifestyle
ช่วยคนไทยสื่อสารดี ทํางานได้ ขายของง่ายบนโลกดิจิทัล
จากช่วงปี 63 ที่ผ่านมา เผยให้เห็นว่า LINE เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยอย่างแท้จริง คนไทยนิยมใช้ LINE ทั้งกับชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่มักใช้ LINE สำหรับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวประจำวันเท่านั้น พฤติกรรมนี้ทำให้ตัวเลขการใช้งาน LINE Call, LINE Group Call และ การใช้งาน LINE บนคอมพิวเตอร์ สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักในช่วงไตรมาส 2 ของปี และเมื่อมีการล็อคดาวน์ นำมาซึ่งพฤติกรรมการทำงานที่บ้าน (Work From Home) LINE จึงได้พัฒนาและปล่อยฟีเจอร์ LINE Meeting ที่ช่วยอํานวยความสะดวกในการประชุมผ่าน LINE ขึ้นในเดือนก.ย. จนกลายเป็นที่นิยมด้วยจํานวนประชุมที่สร้างผ่าน LINE Meeting ในไทยมากถึง 22 ล้านครั้งภายใน 3 เดือนหลังเปิดให้บริกาฟีเจอร์นี้ นับเป็นยอดการใช้งานที่สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
ในส่วน LINE สำหรับธุรกิจ LINE ได้กลายเป็นช่องทางสำคัญในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ให้กับคนไทย โดยมีการใช้งาน LINE Official Account เพิ่มขึ้นสูงกลายเป็น 4 ล้านบัญชี ในเดือนพ.ค. และมีจำนวนร้านค้าที่ใช้งานเครื่องมือ My Shop เพื่อเปิดร้านบน LINE Official Account เพิ่มขึ้นถึง 48% ต่อเดือน ส่งผลต่อจำนวนผู้ใช้งาน นักช้อปที่เข้ามาเยี่ยมชมร้านค้าออนไลน์ที่สร้างผ่านเครื่องมือ MyShop นี้รวมมากกว่า 9 ล้านคนภายในเวลาหนึ่งปี
ในขณะเดียวกัน หน้าไทม์ไลน์ในแอปฯ LINE ก็ได้กลายเป็นแหล่งโซเชียลแห่งใหม่สำหรับคนไทยในการสร้างและส่องคอนเทนต์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยพบยอดการดูคอนเทนต์บนสตอรี่ในหน้าไทม์ไลน์ที่มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาถึง 27% (เปรียบเทียบธ.ค. 63 กับ ธ.ค. 62) รวมถึงส่งผลให้โฆษณาในหน้าแชท หรือที่เรียกว่า Smart Channel กลายเป็นโฆษณาทําเลทองบนแพลตฟอร์ม LINE สําหรับนักการตลาด ด้วยยอดการเติบโตรายปี YoY ของรายได้จากโฆษณาในตำแหน่งนี้สูงถึง 512%
ด้วยเป้าหมายในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ คนทำธุรกิจในไทยไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ แม้เผชิญวิกฤตครั้งใหญ่แห่งปี LINE ประเทศไทย จึงมีการจัดสัมมนา ให้ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องดิจิทัล ซึ่งเป็นทางรอดของผู้ประกอบการไทย ในรูปแบบออนไลน์ให้กับองค์กรและคนทําธุรกิจอย่างต่อเนื่องมากมาย ไม่ว่าจะเป็น LIVE LINE for Business ในช่วงเดือนเมษายน และการเผยเทรนด์โซลูชั่นครั้งใหญ่ ทางรอดธุรกิจไทยหลังวิกฤตในงาน LINE Thailand Business 2020 เดือนตุลาคมที่ผ่านมา รวมไปถึงรายการพูดคุยถึงเทรนด์ เคล็ดลับการทำธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับ SME ไทยอย่าง SME Biz Talk ที่จัดขึ้นอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ที่แต่ละงานล้วนได้รับการตอบรับอย่างดี ด้วยยอดการรับชมหลักแสนแทบทั้งสิ้น
คอนเทนต์คุณภาพโดนใจ เสริมไลฟ์สไตล์คนไทยยุค New Normal
ในด้านของคอนเทนต์ LINE TV ได้ส่งออกคอนเทนต์ขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ 28 ประเทศทั่วโลก โดยเป็น LINE TV Original Content หรือคอนเทนต์ที่สร้างโดย LINE TV เองถึง 22 คอนเทนต์ พร้อมประกาศศักดาคุณภาพซีรีส์ไทย เดินหน้าเข้าชิงรางวัลทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดปี อาทิ ซีรีส์ “Mother เรียกฉันว่า…แม่” ที่ร่วมเข้าชิงรางวัลรวมกว่า 7 สาขาบนเวที Asian Television Awards 2020 เมื่อช่วงต้นปี ยิ่งไปกว่านั้น LINE TV ยังเป็นแพลตฟอร์มสำคัญปลุกกระแสคอนเทนต์ซีรี่ย์วาย หรือ BoyLove จนฮอตฮิตขึ้นมาด้วยยอดผู้เข้าชมคอนเทนต์รวมทะลุ 19 ล้านคนบน LINE TV ในปี 63
สำหรับ LINE Today ก็ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ในช่วงล็อกดาวน์ต้นปี ยอดการเข้าอ่านคอนเทนต์บน LINE TODAY เพิ่มขึ้นถึง 24.5% (เปรียบเทียบม.ค. 63 และ มี.ค. 63) โดยเฉพาะคอนเทนต์สายไลฟ์สไตล์ เพิ่ม 34% และสายบันเทิงเพิ่ม 11% สื่อให้เห็นความนิยมของคอนเทนต์สำหรับคนไทยในอีกแง่มุมหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าวนอกเหนือจากคอนเทนต์พิเศษอัปเดตสถานการณ์โควิด-19 และคอนเทนต์ประเมินอาการ ที่เป็นคอนเทนต์ติดอันดับคนอ่านมากที่สุดในช่วงเวลานั้น นอกจากนี้ LINE TODAY ยังได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ ปรับโฉมหน้าตาการใช้งานใหม่ในช่วงกลางปี ส่งผลให้ยอดการอ่านต่อวันเพิ่มขึ้นถึง 36% อีกด้วย
อีกหนึ่งบริการที่ถือว่าได้รับความนิยมและเป็นจุดเด่น สร้างสีสันให้กับการใช้ LINE เพื่อการสื่อสารไปไม่น้อยในปีนี้คือ LINE Melody บริการเสียงเรียกเข้า เสียงรอสายเมื่อโทรผ่าน LINE โดยในปีนี้ ได้มีการเพิ่มจำนวนเพลงเป็นเท่าตัว ขยายฐานเพลงให้หลากหลาย ครอบคลุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เพลงแนวลูกทุ่ง อินดี้ เคป๊อบ เป็นต้น และยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่อยอด เช่น การเปิดฟังก์ชั่นส่งเพลงจาก LINE MELODY เป็นของขวัญวันเกิดผ่าน LINE ได้ ส่งผลให้มียอดผู้ซื้อเติบโตถึง 187% (เปรียบเทียบธ.ค. 62 และธ.ค. 63)
นอกจากนี้ LINE WEBTOON แพลตฟอร์มการ์ตูนออนไลน์ฟรียอดนิยมจาก LINE ก็ประสบความสำเร็จ สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ ส่งสองการ์ตูนยอดฮิตอย่าง ‘ความลับของนางฟ้า’ และ ‘ Sweet Home’ สร้างเป็นละครซี่รี่ส์ออนไลน์บนแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Viu Thailand และ Netflix และได้รับกระแสตอบรับบนโซเชียลอย่างล้นหลาม ถือเป็นการขยายฐานผู้อ่านการ์ตูนดิจิทัลผ่านละครซีรี่ส์ครั้งใหญ่ และเป็นเครื่องการันตีคุณภาพการ์ตูนบนแพลตฟอร์มได้เป็นอย่างดี
พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ชิม ช้อป ใช้จ่ายอะไรก็ง่าย สบายกว่าที่คิด
ความเคลื่อนไหวด้านธุรกิจครั้งใหญ่แห่งปี 63 นี้คงหนีไม่พ้นการประกาศควบรวมกิจการระหว่าง LINE MAN กับ Wongnai ในช่วงกลางปี ถือเป็นการเดินหน้าขยายขอบเขตให้บริการครั้งใหญ่ของ LINE MAN ตอบโจทย์การเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจําวันผู้ใช้ให้ครบวงจรและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จนปัจจุบัน LINE MAN Wongnai ได้ขยายพื้นที่ให้บริการครอบคลุมถึง 36 จังหวัดทั่วไทย ด้วยอัตราการเติบโตของจำนวนออเดอร์สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 5 เท่าภายในปีเดียว
ในด้านของระบบการเงิน การช้อป การใช้จ่ายของคนไทย LINE ยังคงให้ความสำคัญ เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย ให้ชิม ช้อป ใช้จ่ายอะไรก็ง่าย สบายกว่าที่คิด ด้วยการปรับเปลี่ยนหน้าตาการใช้งานหน้า Home และหน้า Wallet ในแอปฯ LINE ครั้งใหญ่ในช่วงเดือนก.ค. ให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการต่าง ๆ ด้านไลฟ์สไตล์ได้รวดเร็วขึ้นในหน้า Home และเข้ามาช้อป ใช้จ่าย ชำระเงินได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นในหน้า Wallet รวมไปถึงการพัฒนาปรับปรุงระบบและขยายฐานพาร์ตเนอร์มาอย่างต่อเนื่องมาตลอดของ Rabbit LINE Pay แพลตฟอร์มการชำระเงินบนมือถือบนหน้า Wallet ในแอปฯ LINE ที่ทำให้ยอดผู้ใช้งานปัจจุบันของ Rabbit LINE Pay ทะยานเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านราย พร้อมร้านค้าที่รองรับระบบถึง 3 แสนร้านทั่วประเทศ
อีกหนึ่งไฮไลท์ในปีนี้ คือการเปิดตัว LINE BK โซเชียลแบงกิ้งเต็มรูปแบบแห่งแรกของไทยเมื่อเดือน ต.ค. ความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่าง LINE (ลงทุนผ่านบริษัท ไลน์ ไฟแนนเชียล เอเชีย) และธนาคารกสิกรไทย (ลงทุนผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด หรือ เควิชั่น) ที่ผสานความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย เข้ากับพลังของดิจิทัลแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง LINE ที่มีผู้ใช้มากกว่า 47 ล้านคน โดยหลังเปิดให้บริการเพียง 2 เดือน มียอดผู้ใช้บริการทะลุเกิน 1 ล้านราย เดินหน้าสู่เป้าหมายขึ้นเป็น 1 ใน 5 บริการชั้นนำด้านธุรกิจการให้บริการสินเชื่อภายในระยะเวลา 5 ปี
ในปี 2564 LINE จะยังคงมุ่งมั่นสร้างความสุขให้กับคนไทยอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในไลฟ์สไตล์ของคนไทย ให้มีความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะด้วยบริการที่มีอยู่เดิม บริการต่อยอดที่สร้างความหลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น รวมถึงบริการใหม่ ๆ อีกมากมายที่จะมาสร้างประสบการณ์ดี ๆ ให้กับคนไทยและธุรกิจต่างๆ ของไทยต่อไปอีกมากมาย