บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลอดและโคมไฟ “ฟิลิปส์” (Philips) ประกาศความเป็นผู้นำแบรนด์หลอดไฟและแสงสว่างในไทย โดยนำระบบ UV-C ของฟิลิปส์ ผ่านการทดสอบมาตรฐานสินค้าและรับรองความปลอดภัยจาก สคบ. เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย พร้อมจำหน่ายออกสู่ตลาด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์โคมไฟรุ่นติดผนัง ผลิตภัณฑ์โคมไฟ UV-C รุ่นติดเพดาน Upper Air สำหรับสถานที่เปิด, โคมไฟ Philips UV-C Disinfection Desk Lamp เพื่อใช้ในบ้าน, กล่อง Philips UV-C Disinfection Desk Box และตู้ Philips UV-C Disinfection Desk Chamber มั่นใจสามารถยับยั้งเชื้อไวรัส และแบคทีเรียทั้งในอากาศและบนพื้นผิววัตถุ โดยเฉพาะโควิด-19 ได้ 99% ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ มุ่งปลดล็อกศักยภาพของแสงสว่างเพื่อชีวิตที่ดีและโลกน่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม
นายจากันนาธาน ศรีนิวาสัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสได้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ UV-C ที่สามารถยับยั้งเชื้อโรคด้วยรังสี UV จึงได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย แต่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของผู้บริโภค สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มีคำสั่งให้หยุดจำหน่ายสินค้า UV-C สำหรับผู้บริโภคเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคคนไทย
ซิกนิฟาย ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลอดไฟและระบบแสงสว่างแบรนด์ฟิลิปส์ จึงได้ดำเนินการนำสินค้ากลุ่ม UV-C ทั้งกลุ่ม Professional และ Consumer ภายใต้แบรนด์ฟิลิปส์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์โคมไฟรุ่นติดผนัง ผลิตภัณฑ์โคมไฟ UV-C รุ่นติดเพดาน Upper Air สำหรับสถานที่เปิด, โคมไฟ Philips UV-C Disinfection Desk Lamp เพื่อใช้ในบ้าน, กล่อง Philips UV-C Disinfection Desk Box และตู้ Philips UV-C Disinfection Desk Chamber เข้าทดสอบมาตรฐานสินค้าและความปลอดภัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
และผลจากการทดสอบปรากฏว่า สินค้า UV-C ของฟิลิปส์ ได้ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อรังสี UV-C และรับรองความปลอดภัยเป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย โดยพร้อมจัดจำหน่ายออกสู่ตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีทางเลือกในการป้องกันตัวเองและครอบครัวจากโควิด-19 และเชื้อไวรัสอื่น ๆ ได้มากขึ้น นายจากันนาธาน กล่าว
นายจากันนาธาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซิกนิฟายได้มีการพัฒนาสินค้า UV-C จนเชี่ยวชาญ มีผลการวิจัยและได้รับการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือระดับนานาชาติ เช่น Boston University, Innovative Bioanalysis, a CAP, CLIA, AABB Certified Safety Reference Laboratory in Costa Mesa (California) จึงมั่นใจได้ในคุณภาพ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านแสงสว่างของไทยและระดับโลก ซึ่งสินค้ากลุ่ม UV-C จากฟิลิปส์ครอบคลุมเพื่อการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการยับยั้งเชื้อโรคในอากาศ พื้นผิว วัตถุ และน้ำ ด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต
โดยฟิลิปส์ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่นำ UV-C มาใช้ในธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ มานานกว่า 35 ปีแล้ว สามารถช่วยยับยั้งเชื้อโรคได้จริงมากกว่า 99% อีกทั้งความพิเศษของหลอดไฟฟิลิปส์ UV-C ที่แตกต่างจากในตลาด คือ ไม่ก่อให้เกิด Ozone ที่เป็นพิษซึ่งไม่ดีต่อผู้บริโภคหากสูดดมสะสมเป็นระยะเวลานานอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนสำคัญในการป้องกันดูแลสุขภาพและสุขอนามัยของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เพื่อสถานการณ์การแพร่กระจายเชื้อโรคในปัจจุบัน และรองรับเชื้อโรคในอนาคต เหมาะสำหรับพื้นที่ต่าง ๆ เช่น บ้านเรือน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม สำนักงาน ร้านค้า ร้านบริการต่าง ๆ พิพิธภัณฑ์ ธนาคาร และ โรงเรียน เป็นต้น
ฟิลิปส์แนะนำว่า UV-C มีข้อดีอย่างมากหากผู้บริโภคเลือกใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ผ่านการทดสอบและรับรองโดย สคบ. และควรใช้ตามคู่มือแนะนำการใช้งานอย่างเคร่งครัด และในทางตรงกันข้ามก็สามารถส่งผลเสียต่อผิวหนัง และสายตาได้ หากเราใช้ไม่ถูกวิธี
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กลุ่ม UV-C ของบริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ https://www.signify.com/th-th หรือ สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ โทร 02 089 0066 และสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ UV-C จากฟิลิปส์ได้ทั้งช่องทาง Philips lighting Official Store : Lazada, Shopee, JD, Powerbuy, Homepro และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป