HIV เป็นเชื้อที่ค้นพบมานานแต่ยังไม่สามารถหายาที่สามารถรักษาได้อย่างถาวรนอกจากกินยาต้านเชื้อไม่ให้กำเริบเอาไว้ได้เท่านั้น ล่าสุดมีข่าวดีสำหรับคนที่ติดเชื้อดังกล่าวหลังจากการค้นพบยาที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัส HIV ได้แล้ว
Mark Samuels ผู้อำนวยการของสถาบัน National Institute for Health Research Office for Clinical Research Infrastructure ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Sunday Times ว่า “เรากำลังวิจัยและหาความเป็นไปได้ที่จะรักษา HIV ได้อย่างถาวร ถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยผลการวิจัยล่าสุดนั้นก็คืบหน้าไปได้ด้วยดี”
การรักษา HIV ในปัจจุบันนั้นทำได้เพียงแค่รักษา T-cell ที่ติดเชื้อ (infection) ได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถรักษา T-cell ที่หยุดเจริญเติบโตได้ นั่นหมายความว่า ร่างกายของผู้ป่วยจะยังคงสร้างเชื้อไวรัสใหม่ออกมาอยู่ดี
Professor Sarah Fidler แพทย์ที่ปรึกษาให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time ว่า การรักษาแบบใหม่นี้จะรักษาโดยการฆ่าเชื้อไวรัส HIV ทั้งหมดในร่างกาย รวมถึง T-cell ที่หยุดการเจริญเติบโตไปแล้วด้วย
การรักษานั้นจะแบ่งเป็นสองขั้นตอน คือ การใช้วัคซีนช่วยให้ร่างกายสามารถตรวจจับเซลล์ที่มีการติดเชื้อ HIV เพื่อกำจัดเชื้อออกจากร่างกาย และขั้นตอนที่สองคือการใช้ยาตัวใหม่ที่ชื่อว่า Vorinostat เพื่อกระตุ้น T-cell ที่หยุดการเจริญเติบโตไปแล้วได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน
ผลการทดสอบของหนึ่งในกลุ่มทดลอง ชายวัย 44 ปี ได้ตรวจเลือดหลังจากเข้ารับการรักษาครั้งล่าสุดพบว่า เขาไม่มีเชื้อไวรัส HIV ในร่างกายอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังอยู่ระหว่างการทดสอบในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ยังไม่มีการนำตัวยาออกมาใช้อย่างเป็นทางการ ต้องรอประกาศเพิ่มเติมอีกครับ
ที่มา Gizmodo