องค์กร NOAA (The National Oceanic and Atmospheric Administration) เปิดเผยว่า ในปี 2020 ปีนี้อาจกลายเป็นปีที่ร้อนสุดในประวัติศาสตร์โลกนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติกันมา ในรายงานที่เปิดเผยยังมีการคาดการณ์ว่าปีนี้มีโอกาสถึง 75% ที่จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์โลกตั้งแต่มีการเริ่มบันทึกมาในปี 1880 ทำลายสถิติของเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
โดย 3 เดือนแรกของปี 2020 ก็สร้างสถิติเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2 แล้ว โดยอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นในปีนี้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ เพราะยังไม่เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ (รูปแบบสภาพอากาศที่เกิดขึ้นตลอดมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนโดยเกิดขึ้นเฉลี่ยทุก 5 ปี โดยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในอุณหภูมิผิวน้ำทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก) ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่จะที่ทำให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นตลอดมา
ผลของการคาดการณ์ของ NOAA ถึงอุณหภูมิประจำปี เผยว่าจนถึงตอนนี้ ปี 2020 ก็เป็นปีที่สถิติ “ร้อนที่สุด” เท่าที่เคยบันทึกกันมา ติดอันดับ 1 ใน 10 ของอันดับปีที่ร้อนที่สุดในโลกไปแล้ว (มีโอกาสจะเป็นปีที่ร้อนที่สุด 74.67% มีโอกาสเป็น 1 ใน 5 ของอันดับปีที่ร้อนที่สุด 99.94% และ มีโอกาสเป็น 1 ใน 5 ของอันดับปีที่ร้อนที่สุดสูงถึง 99.99%) โดยเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริเวณแถบอาร์กติกนั้นพบว่าไม่มีหิมะปกคลุมเหมือนที่แล้วมา เดือนกุมภาพันธ์พบว่า แถบแอนตาร์กติกมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยสูงถึง 20 องศาเซลเซียสเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก (ที่เคยมีการบันทึกไว้) และ Qaanaaq ที่หมู่เกาะกรีนแลนด์ ขั้วโลกอีกฝั่งก็มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 6 องศาเซลเซียส
January-to-March was the second warmest such period for the globe, behind 2016: https://t.co/AWd6TkukrR #StateOfClimate pic.twitter.com/pzoAgKTHVa
— NOAA NCEI (@NOAANCEI) April 14, 2020
นอกจากนี้ NOAA ยังให้ข้อมูลว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นนี้มีผลมาจากพฤติกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ไม่ว่าจำเป็นการปล่อยมลพิษก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยถึงแม้ในปีนี้การปล่อยมลพิษลดลงบ้างจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ทำให้มนุษย์อยู่กิจกรรมทางสังคม แต่มลพิษที่สะสมมาเป็นเวลายาวนานก็ยังมากพอจะผลักดันโลกเข้าสู่หายนะของภาวะโลกร้อน เพราะการหยุดกิจกรรมไม่ได้ทำให้อุณหภูมิโลกลดลงแต่อย่างใด
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส