2020 จัดว่าเป็นปีแห่งความรุ่งเรืองของ SpaceX ที่สามารถปล่อยภารกิจอวกาศได้ถึง 26 ครั้งจากเป้าหมายทั้งหมดที่กำหนดไว้ 39 ครั้ง แม้ว่าจะมีจำนวนภารกิจเป็นรองจากการปล่อยจรวดในกลุ่ม Long March ของประเทศจีนที่มากถึง 30 ครั้ง แต่อย่าลืมว่า SpaceX ในฐานะบริษัทเอกชนเมื่อเทียบกับองค์การบริหารอวกาศแห่งชาติของจีนแล้ว ทำได้ขนาดนี้ถือว่าแน่มาก
SpaceX ได้ทำ 2 ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ คือ เดือนพฤษภาคมได้ปล่อยภารกิจประวัติศาสตร์ Demo-2 ในการส่ง 2 นักบินอวกาศ Bob Behnken และ Doug Hurley ของ NASA ด้วยแคปซูล Crew Dragon ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติจากแผ่นดินอเมริกาเป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ส่งนักบินขึ้นสู่อวกาศในแผ่นดินตัวเองครั้งสุดท้ายเมื่อกรกฎาคม 2011 ในภารกิจ STS-135 ซึ่งนับว่าเป็นภารกิจครั้งสุดท้ายในโครงการกระสวยอวกาศของสหรัฐฯ และเดือนพฤศจิกายนได้ปล่อยภารกิจ Crew-1 ส่ง 3 นักบินอวกาศของ NASA และอีก 1 ของ JAXA ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติได้สำเร็จด้วยเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ของเอกชน
SpaceX ยังได้ทำภารกิจรับจ้างขนส่งเสบียงไปยังสถานีอวกาศให้กับ NASA ซึ่งในเดือนมีนาคมได้ปิดฉากการใช้แคปซูล SpaceX Dragon 1 ในภารกิจ SpaceX CRS-20 ที่จอดเทียบท่าโดยต้องใช้แขนหุ่นยนต์ช่วยจับเป็นครั้งสุดท้าย และล่าสุด 5 ธันวาคมได้ทำภารกิจ CRS-21 ปล่อย Dragon 2 ยานอวกาศรุ่นใหม่สำหรับส่งเสบียงไปยังสถานีอวกาศนานาชาติที่จอดเทียบท่าได้อัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้แขนหุ่นยนต์ช่วย
SpaceX มุ่งสู่การสร้างรายได้ในการให้บริการบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียม Starlink โดยได้ปล่อยจรวด Falcon 9 ขนส่งดาวเทียม Starlink ไปสู่วงโครจรของโลกในระดับต่ำถึง 14 ครั้ง ทำให้ตอนนี้มีดาวเทียมทั้งหมด 901 ดวง จากนั้นได้เริ่มทดสอบให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียม Starlink ก่อนใช้งานจริงหรือแบบเบตาที่ได้เสียงตอบรับถึงความเร็วและความหน่วงแฝงต่ำ และต่อมาก็ได้รับเงินทุน 855 ล้านดอลลาร์จาก FCC เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปสู่ชนบทของสหรัฐฯ
นอกจาก SpaceX จะปล่อยดาวเทียมของตัวเองแล้วยังใช้จรวด Falcon 9 ให้บริการส่งดาวเทียมไปสู่วงโครจรเชิงพาณิชย์อีกด้วย ได้แก่ เดือนมิถุนายนได้ปล่อยดาวเทียมถ่ายภาพเชิงพาณิชย์ BlackSky 5 / 6 / 7 และ 8, ดาวเทียม GPS III SV03 ให้กับกองทัพอวกาศสหรัฐฯ, เดือนกรกฎาคมได้ปล่อย Anasis-II ดาวเทียมสื่อสารทางทหารของเกาหลีใต้, เดือนสิงหาคมได้ปล่อย SAOCOM 1B ดาวเทียมสังเกตการณ์บนพื้นโลกของอาร์เจนตินาและ SkySats 19-21 ของ Palnet Labs, เดือนพฤศจิกายนได้ปล่อยดาวเทียม GPS III SV04 ให้กับกองทัพอวกาศสหรัฐฯ และดาวเทียม Sentinel-6 Michael Freilich ของ NASA และ esa ปิดท้ายปีเดือนธันวาคมได้ปล่อยดาวเทียม SiriusXM รหัส SXM-7 สำหรับให้บริการวิทยุกระจายเสียงผ่านดาวเทียมและ NROL-108 ภารกิจปล่อยดาวเทียมสอดแนมของสำนักงานลาดตระเวนแห่งชาติของสหรัฐฯ
ปีนี้ SpaceX ได้เริ่มสร้างต้นแบบของยานอวกาศ Starship ที่จะบินไปในวงโคจรของโลกด้วยจรวด Super Heavy แล้วเมื่อยานไปถึงอวกาศก็จะแยกตัวออกมาจากจรวดแล้วใช้เชื้อเพลิงในถังของมันบินไปสู่ดวงจันทร์หรือดาวอังคาร ซึ่งเดือนกุมภาพันธ์ได้เริ่มทดสอบแรงดันไนโตรเจนเหลวกับต้นแบบ SN1 ไม่สำเร็จแต่มาสำเร็จในต้นแบบ SN2 ในเดือนมีนาคม, เมษายนได้ทดสอบแรงดันอีกครั้งใน SN3 แต่ไม่สำเร็จต่อมาได้สำเร็จอีกครั้งกับ SN4, เดือนสิงหาคม SN5 ได้ผ่านการทดสอบบินระยะสั้น 150 เมตร, เดือนกันยายน SN6 ได้ผ่านการบินทดสอบระยะสั้นที่ 150 เมตรอีกครั้งและต่อมาทดสองแรงดันของถังกับ SN7 แต่ก็ล้มเหลว สุดท้ายเดือนธันวาคม SN8 สามารถทดสอบบินสู่ระดับสูงที่ 12.5 กม. และพลิกตัวกลับลงมาได้ แต่ลงจอดกระแทกแรงจนระเบิด
ปี 2020 SpaceX มีแผนที่จะให้บริการบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมในภาคเหนือของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา พร้อมปล่อยดาวเทียมเพิ่มมากกว่า 1,500 ดวง แต่น่าเสียดายตอนนี้ได้แค่ทดสอบการใช้งานในสหรัฐฯ และพึ่งได้รับใบอนุญาตทดสอบในแคนาดา ดังนั้นเชื่อว่าปี 2021 จะเป็นการสานต่อจนสำเร็จและจะปล่อยดาวเทียมปูทางให้ใกล้เคียง 42,000 ดวงที่จะสามารถให้บริการครอบคลุมได้ทั่วโลกในปี 2021 – 2022 รวมทั้งจะได้เห็นต้นแบบ Starship ที่ทดสอบบินในระดับสูงได้สมบูรณ์และการเปิดตัวจรวด Falcon Heavy ที่เป็นบูสเตอร์สำหรับมุ่งสู่การไปดวงจันทร์และดาวอังคารในอนาคต
คลิปรวมภารกิจอวกาศของ SpaceX โดย Cnet
ที่มา : cnet
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส