เดือนมีนาคม 2020 ระหว่างที่โควิด-19 กำลังเริ่มระบาดอย่างหนัก ประชาชนทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับ “ชีวิตธรรมดาแบบใหม่” ที่ไม่แน่นอนและหลายคนต้องตกงานจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หนึ่งในนั้นคือ คาบี ลาเม (Khabane ‘Khaby’ Lame) หนุ่มโรงงานชาวเซเนกัลวัย 20 ปีที่อาศัยอยู่ในอิตาลี เขาถูกปลดออกจากงานและต้องย้ายกลับไปอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ กับครอบครัว
พ่อของลาเมพยายามโน้มน้าวให้เขากลับไปหางานใหม่แต่เขาก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับการทำงาน ยังไม่อยากหางานใหม่ ระหว่างวันว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไร บังเอิญไปเจอ TikTok แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นที่กำลังเริ่มเป็นที่นิยม เขาเลยเริ่มบันทึกคลิปวิดีโอสั้นของตัวเองแล้วโพสต์ลงบ้างในชื่อว่า ‘Khaby Lame’
วิดีโอช่วงแรกของเขาก็เหมือนกับทุกคนที่พยายามหา ‘เสียง’ หรือ ‘รูปแบบ’ ของตัวเองอยู่ สะเปะสะปะไปเรื่อย คลิปโชว์เต้นสั้น ๆ นู่นนี่ มีพูดบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ จนเขาเปลี่ยนแนวมาเป็น ‘Life Hack’ นำเสนอแนวคิด เคล็ดลับการทำให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น ซึ่งเขาใช้ฟีเจอร์ ‘Duet’ กับ ‘Stitch’ เพื่อสร้างวิดีโอเชิงตลกเสียดสีกับวิดีโออื่นว่าทำไมต้องทำให้ชีวิตมันยากด้วย พอเขานำเสนอแนวทางแก้ไขของเขาแบบง่าย ๆ เสร็จก็จะแบมือสองข้างออกมา ทำหน้าตาย ตาแป๋วไม่พูดอะไรเลยสักคำ ประหนึ่งจะบอกว่า “นี่ไงเห็นไหม ง่ายนิดเดียวเอง” (ถ้าเป็นภาษาอังกฤษจะเป็นจังหวะ “DUH!”)
การสร้างเสียงหัวเราะ ตลกเสียดสีสนุก ๆ คลิปสั้นไม่กี่วินาทีสามารถดึงดูดให้คนหยุดแล้วขำได้ง่าย ๆ หน้าตา ท่าทางที่เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ อารมณ์เหมือนต้องมาสอนอีกแล้วเหรอเนี่ย กลายเป็น ‘ลายเซ็น’ ของลาเมไปเลย วิดีโอที่เขาทำแต่ละอันได้รับความนิยมและมีคนดูนับล้านอยู่เป็นประจำ ตอนนี้มีผู้ติดตามแล้วกว่า 151 ล้านคน ขึ้นเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบน TikTok เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2022 แซงหน้า ชาร์ลี ดาเมลิโอ (Charli D’Amelio) ที่ครองอันดับหนึ่งอยู่นานหลายปี ตอนนี้ตามหลังอยู่ที่ราว 149 ล้านคน โดยลาเมให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ว่าเหตุผลที่ทำให้วิดีโอส่วนใหญ่ของเขาได้รับความนิยมก็เพราะว่า “หน้าตาและการแสดงออกของผมที่ทำให้คนหัวเราะก็เพราะมันเป็นภาษาของคนทั้งโลกยังไงล่ะ”
ในการสัมภาษณ์อีกครั้งกับนิตยสาร Time เขาก็ย้ำในแนวคิดนี้ว่า “ผมเลือกที่จะทำวิดีโอแบบนี้ก็เพราะผมว่าการทำให้มันเงียบและใช้เพียงแค่ใบหน้าและการแสดงออกทางร่างกาย ทุกคนจะเข้าใจผมได้ ภาษาใบ้เป็นภาษานานาชาติเพียงภาษาเดียวในโลก ที่ทุกคนสามารถเข้าใจและหัวเราะไปกับผมได้”
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิดีโอของลาเมและน่าจะเป็นกำลังใจให้กับคนสร้างวิดีโอคอนเทนต์คนอื่น ๆ ด้วยก็คือวิดีโอแต่ละอันที่ทำออกมานั้นล้วนไม่ได้พึ่งพาอุปกรณ์ราคาแพงหรือเทคนิคการตัดต่อที่แพรวพราวอะไรเลย เขาใช้กล้องมือถือแล้วก็ไอเดียจากสมองเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและเสียงหัวเราะไปให้คนดู นั่นคือสิ่งที่ทำให้คอนเทนต์ของเขามีคุณค่าและไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนหลายล้านคนจึงเลือกติดตามเขาแบบออร์แกนิกไม่ต้องพึ่งพาการซื้อคนติดตามหรือไปร่วมงานกับคนดังคนอื่น ๆ เลย
ชาเมียร์ เชาด์รีย์ (Samir Chaudry) ผู้ก่อตั้ง The Public Press เว็บไซต์ข่าวสำหรับครีเอเตอร์ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องความสำเร็จของลาเมว่า “คอนเทนต์ของเขาแทบจะหักล้างหรือเย้ยหยันเทรนด์การใช้โปรดักชันที่เกินไปบนโซเชียลมีเดีย เขาเป็นตัวแทนของความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าโปรดักชัน ผมคิดว่ามันน่าสนใจมากสำหรับหลายคน ความรู้สึกที่ว่าคนสักคนหนึ่งไม่ได้พยายามมากเกินไป เป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกแท้จริงที่จับต้องได้”
สำหรับคนที่ใช้โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Instagram หรือ TikTok จะเห็นว่าคอนเทนต์ส่วนใหญ่จะมีการลงทุนสร้าง จัดแสง สี ไฟให้สวยงาม เป็นโปรดักชันที่เรียกว่าไม่ต่างจากกองถ่ายจริง ๆ เลย แต่สำหรับเลมแล้ววิดีโอของเขามักมาในรูปแบบดิบ ๆ ถ่ายในห้องนอนบ้าง ห้องนั่งเล่นบ้าง ด้านหลังมีธงชาติอิตาลีและผ้าพันคอทีมฟุตบอลยูเวนตุสในดวงใจแขวนเอาไว้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คนชอบเพราะมันจริงใจและไม่เสแสร้ง
อดัม เมสคูรี (Adam Meskouri) นักเรียนและผู้สร้างคอนเทนต์ให้เว็บไซต์ Entrepreneur บอกกับ The New York Times ว่า “ผมคิดว่าปัญหาที่คนเริ่มเห็นจากอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่คือพวกเขากำหนดมาตรฐานว่าจะออกมาแบบไหน อะไรเจ๋ง อะไรไม่โดน แล้วเราก็มีคาบีที่เข้ามาและเขาก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เห็นแล้วสดชื่น เข้าถึงง่ายกว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่”
แม้ว่าคนจะรู้จักลาเมว่าเป็นคนอิตาลี เพราะครอบครัวย้ายมาอยู่ที่อิตาลีตั้งแต่เขาอายุได้เพียงแค่ขวบเดียว แต่เขายังไม่ได้รับสัญชาติอิตาลีหรือมีพาสปอร์ตของอิตาลีเลย ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เคยเป็นปัญหากับชีวิตของเขานักจนกระทั่งเริ่มได้รับการเชิญไปยังประเทศต่าง ๆ โดยอินฟลูเอนเซอร์คนอื่น ๆ
ด้วยกฎหมายอันเข้มงวดของประเทศอิตาลี จึงทำให้เขาต้องใช้เอกสารมากมายเพื่อทำเรื่องขอสัญชาติ เพราะชาวอิตาลีต้องเกิดที่นี่และถ้าเป็นลูกของชาวอพยพจะต้องเกิดที่นี่และอายุถึง 18 ปีถึงจะได้ สำหรับคนที่ไม่ได้เกิดในอิตาลีต้องใช้ระยะเวลานานมากกว่าเอกสารทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อย เลเมบอกว่า “ผมไม่ใช่นายกเทศมนตรี ผมเป็นใครก็ไม่รู้ ผมเปลี่ยนกฎหมายไม่ได้”
แต่ล่าสุดเพียงสองวันหลังจากขึ้นแท่นเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์บน TikTok ที่มีผู้ติดตามสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งแล้ว เขาก็ได้รับข่าวดีอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือพาสปอร์ตสัญชาติอิตาลี ซึ่งแน่นอนว่าชื่อเสียงของเขาก็คงช่วยเป็นแรงผลักดันให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดด้วย
ตอนนี้คนติดตามเขาจากทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ยุโรป เอเชีย และแน่นอนที่อิตาลีและเซเนกัล คนมักจะเดินเข้ามาทักเขาบนถนนแล้วขอถ่ายรูปด้วยเสมอ บ่อยครั้งจะเห็นเขาขึ้นปกนิตยสารและหนังสือพิมพ์ ชื่อของเขาถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งในรายงานข่าวทางโทรทัศน์และวิทยุ ชื่อเสียงของลาเมก็ถือว่าได้รับการยอมรับจากคนมีชื่อเสียงคนอื่นแล้วเช่นกัน ขนาด มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้ง Facebook ยังมาคอมเมนต์ยกนิ้วให้กับโพสต์บนอินสตาแกรมของลาเมเมื่อไม่นานนี้เลย หรืออย่างการได้ออกงานร่วมกับ อาเลสซันโดร เดล ปิเอโร (Alessandro Del Piero) อดีตแข้งดังทีมชาติอิตาลีและทีมยูเวนตุสซึ่งเขาก็ชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้คนที่มีชื่อเสียงทั่วโลกต่างอยากมาร่วมงานกับลาเมท้ังสิ้น
อย่างไรก็ตามคอนเทนต์ที่เขาสร้างบางอันก็มีเสียงตอบรับที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการเหยียดเพศ ยกตัวอย่างวิดีโอหนึ่งที่เขาพยายามปลอบผู้หญิงที่ร้องไห้ด้วยการให้ไปล้างจาน หรือวิดีโอหนึ่งที่เขาลิสต์บริเวณบ้านที่จะให้ผู้หญิงที่มีเวลาอยู่กับเขา 24 ชั่วโมงได้ทำความสะอาด ซึ่งฟังดูอาจจะเป็นมุกตลกเล็ก ๆ ที่เขาพยายามจะใส่เข้าไป แต่มันก็ไปสะกิดใจคนหลายคนที่อ่อนไหวกับประเด็นนี้ได้เช่นเดียวกัน
ประเด็นเรื่องความสำเร็จของลาเมได้รับความสนใจขึ้นมาอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้หลังจากไปสัมภาษณ์กับนิตยสาร Fortune เกี่ยวกับรายได้ที่เขาได้ในการทำคลิปวิดีโอหนึ่งกับสตูดิโอในฮอลลีวูดประมาณ 750,000 เหรียญ หรือราว ๆ เกือบ 30 ล้านบาท และภายในปีนี้น่าจะทำเงินได้ถึงเป้า 10 ล้านเหรียญที่ตั้งเอาไว้ โดยค่าตัวของเขาเฉลี่ยตอนนี้อยู่ที่ 400,000 เหรียญต่อคลิปที่โพสต์ให้แบรนด์
หลังจากที่ได้พาสปอร์ตแล้วเขาวางแผนว่าจะย้ายมาอยู่ที่ลอสแอนเจลิสเพื่อสร้างคอนเทนต์ให้ดีมากขึ้นในช่วงต้นปีหน้า ลาเมแชร์เคล็ดลับความสำเร็จในการสร้างคอนเทนต์ของเขาว่า “เหนือกว่าสิ่งใดคือความอึดทน” ที่จะโพสต์เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ แม้หลายคนจะพยายามเปรียบเทียบเขากับดาวตลกคนอื่น ๆ อย่าง เอ็ดดี เมอร์ฟี (Eddie Murphy) หรือ ชาร์ลี แชปลิน (Charlie Chaplin) เขาก็บอกว่าคนเหล่านั้นคือไอดอล แต่เขาก็ไม่มีทางเป็นแบบนั้นได้ ยังไงเขาก็คือลาเมคนเดิม เป้าหมายของเขาคือทำให้คนที่ติดตามเขามีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะเท่านั้น
“คนถามผมว่าผมอยากเป็นอย่างตำนานเหล่านั้นหรือเปล่า สำหรับผมแล้ว ผมก็คงเป็นคาบีแค่นั้น ผมจะเป็นตัวเองแบบนี้และจะเดินบนเส้นทางของตัวเอง”
อ้างอิง:
Fortune The New York Times AFroTech
Yahoo Finance Vibe Time
ภาพ:
Boss, Fortune
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส