งานฉลองครบรอบ 22 ปี ของบริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด มาในธีมที่มีชื่อว่า ‘Game of Clones’ ซึ่งหนึ่งในไฮไลต์ของงานนี้คือการที่ หนุ่ย-พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทได้ทำการ ‘โคลนนิ่ง’ ตัวเองสด ๆ บนเวที!
แน่นอนว่าครบรอบ 22 ปี ของบริษัททั้งที ก็คงไม่มีใครจะทำหน้าที่สัมภาษณ์เขา ได้ดีไปกว่าตัวเขาเองอีกแล้ว ช่วงแรกดิจิทัลโคลนนิ่งของหนุ่ย พงศ์สุข เริ่มต้นด้วยการโชว์ท่าหมุนตัว อันเป็นท่าประจำของเขา ก่อนจะเริ่มเข้าสู่บทสนทนาด้วยคำถามที่ว่า “ย้อนกลับไปตอนก่อตั้งบริษัทแรก ๆ คิดว่าจะมีวันนี้ไหม”
“ต้องพูดกันตรง ๆ ว่า ไม่ได้คิดจะเลิก ในวันที่จดทะเบียนบริษัท ก็คิดจะทำไปเรื่อย ๆ ได้นั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีภาพออกมางดงามแบบนี้ แล้ววันนี้ผมก็มองทุกคนด้วยตาเปล่า ดีใจมาก ๆ ที่ผู้ดูแล อุปถัมภ์ ผู้สนับสนุน ผู้ให้กำลังใจผมในทุก ๆ เรื่อง มากันเรียกว่าเยอะจริง ๆ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ นี่คือสิ่งที่เกินฝันของผม”
หนุ่ย พงศ์สุขยิงคำถามใส่หนุ่ย พงศ์สุข (ตัวจริง) ต่อเนื่องว่า เขาคิดว่าอุปสรรคหรือปัญหาใหญ่ในปี 2022 คืออะไร? ซึ่งซีอีโอของ beartai ก็ให้ความเห็นว่า
“พูดตรง ๆ ว่าปีนี้ ผมไม่ได้รับผลกระทบอะไรเพราะโควิด-19 ซาลงแล้ว ในปีที่มีโควิด-19 เราก็กล้าพูดได้ว่า เราไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่สิ่งที่ผมต้องบอกในปี 2022 สำหรับผมมันก็น่าจะเป็น Good Problem คือ มีถ่ายทำทุกวันเลย ตารางแน่นมาก ๆ แล้วก็ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว ทีมงานทุกคน เรามีออฟฟิศที่ไม่ใช่แค่ True Digital Park ชั้น 6 หรือ beartai POD เรามี beartai District อยู่ที่ศรีวรา ถ่ายทำได้ 24 ชั่วโมง ขนาดนี้ยังถ่ายไม่ทันเลย ขนาดเพื่อนชวนผมไปตีกอล์ฟผมยังไม่มีเวลาเลย”
แน่นอนว่าหนุ่ย พงศ์สุขถูกถามถึงเป้าหมายในปีหน้า และปีถัด ๆ ไปของบริษัทด้วย ซึ่งเขาได้แบไต๋วิสัยทัศน์องค์กร รวมถึงเปิดใจในเรื่องความพยายามที่จะผลักดันนโยบายเหล่านี้ ให้ยั่งยืนที่สุดว่า
“เอาจริง ๆ ไม่ได้คิดถึงแค่ตัวเอง วันนี้มันเป็นบริษัทแล้ว มันมีทีมเวิร์กของมัน มีคนเกินร้อย เกินมาหนึ่งร้อย แต่ผมก็มองถึงเรื่องการทำได้มากกว่าสร้างงาน แทนที่จะมีแค่งานเป็นที่ทำงานของทุกคน ผมอยากได้ Work แล้วมี Wealth ก็น่าจะเป็นมุมมองที่ดีใช่ไหม ฉะนั้นในมุมมองของการที่พนักงานมาอยู่ในบริษัท มันจะมีผลตอบแทนที่ใช้คำว่ายุติธรรม ยุติธรรมสำหรับคนที่เหนื่อยมาก ยุติธรรมสำหรับคนที่เข้ามาใช้เวลาอยู่ร่วมกันในระบบนี้ ผมอยากทำให้ได้ และมันก็คงไม่ใช่แค่ปีหน้าปีเดียว ก็คงเผื่อสามปีไปเลยว่าในมุมของการมุ่งสู่ตลาดทุน อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ด้วยเหมือนกัน”
หนุ่ย พงศ์สุขถือเป็น ’Tech Guy’ ที่คว่ำหวอดอยู่ในวงการไอทีมานาน แน่นอนว่าเขาเป็นหนึ่งในคนสื่อที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคแอนะล็อก จวบจนดิจิทัลในปัจจุบัน เขาถูกถามว่าในมุมมองของตัวเองที่เห็นการเปลี่ยนผ่านมาโดยตลอด เขาคิดว่าอะไรคือสิ่งยากที่สุดในการทำคอนเทนต์สดใหม่อยู่ตลอดเวลา
“เราก็เปลี่ยนผ่านตัวเองกันไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำแค่ครั้งเดียวหรอก เอาจริง ๆ ชีวิตคนเรามันเจอการเปลี่ยนผ่านมาเรื่อยแหละ แต่จะเห็นชัดเมื่อมันผ่านทศวรรษ แต่ทีนี้ยุคนี้ มันอาจจะไม่ได้วัดกันแบบทศวรรษแล้ว เพราะมันอยู่ในวูก้า เปลี่ยนไว ไม่แน่นอน ซับซ้อน คลุมเครือ ใคร ๆ ก็รู้ว่าข้อมูลไม่เคยหลอกใคร สุดท้ายเราก็ต้องเอาข้อมูลมาจับว่า เห็นการเปลี่ยนแปลงของคนดูในจุดไหน เราก็เริ่มเสิร์ฟของใหม่ให้ทันเวลา อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้
“แล้วก็การตัดต่อคลิปที่คนละเวอร์ชันกัน ตอนนี้เราเห็น Facebook ลงอย่างหนึ่งเพราะจริตคนดูเป็นอย่างนี้ YouTube ลงอีกแบบหนึ่ง หรือ TikTok เราก็ต้องเล่าเรื่องแบบสไตล์ TikToker เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง Reels เราขอแค่ว่า เราต้องเป็นคำตอบให้กับสังคมที่กำลังสงสัยเรื่องราวต่าง ๆ ให้รู้ได้ตรงเวลา และเราจะโชว์ข้อเท็จจริง แต่เราจะไม่กระตุ้นความเห็นส่วนตัว ให้สังคมเกิดความเดือดดาล มันก็เป็นสิ่งที่เราจะเคารพ”
หลังสิ้นบทสนทนา ก็มีการเปิดเผยยูนิตรวมถึงโปรเจกต์ใหม่ของบริษัทมากมาย อาทิ LEMONADE, Madan รวมไปถึงงาน Thailand Game Show ที่มีการร่วมมือกับ Wonder Festival งานของเล่น ของสะสม และป๊อปคัลเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งหนุ่ย พงศ์สุขแย้มว่าในปี 2023 จะเป็นปีที่บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด เติบโตขึ้นว่าเดิมอย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส