ตอนนี้ถ้าใครใช้ TikTok จะเห็นเทรนด์วิดีโอเกี่ยวกับ ChatGPT ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว มันเป็นแชตบอตที่ใครต่อใครต่างบอกว่าทำงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งเขียนโค้ดโปรแกรมในภาษาต่าง ๆ แต่งเพลง แต่งกลอน เขียนบทความ สรุปบทความ เขียนใบสมัครงาน ทำเอกสารประกอบธุรกิจ หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวอย่างการออกแบบแผนการเดินทาง หรือเป็นเพื่อนที่ปรึกษาเวลาเครียด ๆ ก็ได้ด้วย

ChatGPT เป็นแชตบอตที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัทสตาร์ทอัปในซานฟรานซิสโกที่ชื่อว่า OpenAI และถูกปล่อยออกมาสู่โลกในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2022 ภายในเวลาเพียงไม่กี่วันก็มีผู้ใช้หลักล้านคนไปเรียบร้อย

สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี ‘แชตบอต’ มันคือโปรแกรมที่คอยตอบโต้กับเราเมื่อเราพิมพ์คำสั่งเข้าไป ถ้าใครยังจำได้เมื่อหลายปีก่อนมีแชตบอตกวน ๆ ที่ดังมากในบ้านเราชื่อ ‘SimSimi’ คำตอบไม่ได้มีสาระอะไร แค่สนุก ๆ แต่โดยหลักการแล้วมันคือแชตบอตรูปแบบหนึ่งที่เราพิมพ์คำสั่งเข้าไปแล้วก็มีโปรแกรมโต้ตอบกลับมา

หลัง ๆ เราจะเห็นธุรกิจหลายแห่งนำความสามารถทางเทคโนโลยีแบบนี้มาใช้เพื่อช่วยเหลือลูกค้า ยกตัวอย่างสายการบินหลายแห่งที่นำแชตบอตมาตอบคำถามลูกค้า แต่ด้วยความที่มันไม่ได้ฉลาดหรือแก้ไขปัญหาได้มากเท่าไหร่ถ้าเจอคำถามที่ซับซ้อนของลูกค้า ทำให้แทนที่จะช่วยเหลือกลับยิ่งทำให้ลำบากไปมากกว่าเดิม

แต่การมาของ ChatGPT อาจจะยกระดับความสามารถของแชตบอตในตลาดทั้งหมดเลย ความสามารถของมันถึงขั้นทำให้ Google บริษัทเสิร์ชเอนจินขนาดใหญ่ที่สุดของโลกต้องเรียกประชุมด่วนเพื่อหารือวิธีการรับมือของมันเลยทีเดียว

เทคโนโลยี ChatGPT สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GPT3 AI ของ OpenAI ซึ่งเป็นเจ้าของแบบจำลองทางภาษา (Language Model) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายอัน โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ของ AI ทั้งแบบมีการควบคุมและไม่ได้ควบคุม สิ่งที่แตกต่างจากแชตบอตอื่น ๆ อีกอย่างหนึ่งคือ ChatGPT สามารถจำบทสนทนาก่อนหน้าได้ด้วย และคำที่เราพิมพ์ใส่เข้าไปจะถูกกรองเรื่องคำเหยียดและคำหยาบทันที รวมทั้งบอตจะไม่ตอบเลยด้วย

แต่แน่นอนว่ามันก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง ทั้งเรื่องของข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แถมยังมีความเป็นอคติต่อผู้หญิงและคนผิวสี

สำหรับคนที่อยากลองทดสอบตอนนี้สามารถใช้งานได้ฟรี (ต่อไปอาจจะมีรูปแบบการหาเงินออกมาเหมือนอย่าง Google ในช่วงแรก) มีผู้ใช้งานเกิน 2 ล้านคนไปแล้ว แต่บางครั้งเวลามีคนใช้เยอะ ๆ ก็อาจจะมีออฟไลน์ไปบ้าง และหลายคนก็ใช้มันในการสร้างรายได้แล้วด้วยอย่างการสร้างคอร์สเรียน หรือสร้างหนังสือนิทานแล้วขายบนเว็บ Amazon ก็มี

คำถามที่น่าสนใจคือ

  1. ต่อไป ChatGPT จะถูกใช้งานยังไงในส่วนของการศึกษา? จะมีการรับมือกับบทความหรือข้อมูลที่สร้างด้วยแชตบอตยังไง?
  2. งานบริการตอบคำถามลูกค้าออนไลน์จะหายไปหมดเลยไหม?
  3. งานอะไรอีกบ้างที่จะเจอกระทบกับการพัฒนาของแชตบอตตัวนี้?
  4. มันจะสร้างความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยบนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นไหม?
  5. จะเอาชนะ Google ได้จริง ๆ หรือเปล่า?

คำถามเหล่านี้เป็นเรื่องน่าสนใจ ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของ ChatGPT ในตอนนี้คือเรื่องของข้อมูลที่มันถูกฝึกมายังไม่เป็นข้อมูลแบบ Real-Time เพราะฉะนั้นเวลาถามข้อมูลที่เป็นเรื่องของตอนนี้มันจะยังตอบไม่ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและเทคโนโลยีตรงนี้ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เราน่าจะเห็นแชตบอตที่ตอบคำถามเรื่องที่เราสนใจในขณะนั้นได้เลย

สิ่งนี้กลายเป็นเรื่องที่ต้องระวังเพราะข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าไปเพื่อฝึกแชตบอตอาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานดึงข้อมูลที่ผิด ๆ นำไปใช้ต่อได้ ซึ่งน่าจะมีการควบคุมการใช้งานในอนาคตด้วย เพราะอย่างล่าสุดมีการรายงาน ChatGPT ถูกแบนแล้วบนอุปกรณ์ที่อยู่ในเครือข่ายของโรงเรียนรัฐบาลที่เมืองนิวยอร์ก เพราะไม่อยากสนับสนุนให้เด็ก ๆ ใช้งานมันแบบผิดวัตถุประสงค์ (ไม่อยากให้ใช้เพื่อโกงหรือทำงานให้นั่นแหละครับ)

เรื่องงานเราจะเห็นเลยว่าจะต้องมีคนโดนกระทบอย่างแน่นอน มีการคาดการณ์เอาไว้โดย Forbes บอกว่าภายในเวลาสิบปีข้างหน้า AI จะทำงานแทนคนกว่า 1,000 ล้านตำแหน่ง ซึ่งงานเหล่านั้นจะหายไปทำให้พนักงานที่ตกงานต้องทำการ Re-Skill เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เพราะไม่มีทางที่จะไปแข่งกับ AI ได้เลย

งานที่จะถูกแทนที่โดย AI ก็มีตั้งแต่พนักงานบริการลูกค้าออนไลน์ แคชเชียร์ พนักงานบัญชี พิสูจน์อักษร พนักงานต้อนรับ พนักงานขาย แนะนำสินค้า และอีกเยอะมาก ๆ

ในส่วนของเรื่อง Google ตอนนี้เรายังคงไม่สามารถตอบหรือฟันธงได้ชัดเจนว่า ChatGPT จะมาฆ่า Google ได้จริงรึเปล่า แต่สาเหตุที่คนพูดแบบนี้ก็เพราะว่าความสะดวกในการหาข้อมูลบน ChatGPT นั้นง่ายและสะดวกกว่ามาก อย่างเช่นถ้าเราอยากจะค้นหาข้อมูลเกี่ยวสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่างเมื่อก่อนเราหา Google ต้องมาไล่ข้อมูลเอง แต่ถ้าถาม ChatGPT เราสามารถสั่งให้มันสรุปออกมาเลยเป็นบทความสั้น ๆ ได้เลย

แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ OpenAI ได้กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าจะมีความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์แบบทั่วไป (AGI – Artificial General Intelligence) ซึ่งจะทำให้เจ้า ChatGPT ในตอนนี้ “เหมือนของเล่นที่น่าเบื่อไปเลย”

ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอของ Google กล่าวกับนิตยสาร Time ว่าแชตบอตอย่าง ChatGPT อาจคุกคามธุรกิจของ Google ซึ่งตอนนี้พึ่งพาโฆษณาและอีคอมเมิร์ซเป็นหลัก และตอนนี้มีการยกเลิกงานของหลายกลุ่มภายในบริษัทเพื่อตอบโต้ต่อภัยคุกคามที่มาจาก ChatGPT

ปีนี้จะเป็นปีที่น่าสนใจของ ChatGPT เพราะนอกจากมันจะสร้างฐานผู้ใช้งานใหม่ ๆ ได้อย่างมหาศาลแล้ว เรายังจะเห็นการใช้งานของมันในกรณีต่าง ๆ ในโลกของความเป็นจริงด้วย ซึ่ง Reuters คาดการณ์ว่าภายในปี 2024 OpenAI น่าจะสร้างรายได้จากตรงนี้ประมาณ 1,000 ล้านเหรียญและกำลังเตรียมตัวที่จะระดมทุนรอบใหม่ด้วย ทำให้เห็นเลยว่าตลาดให้เสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี

ถึงตอนนี้คำถามต่อไปไม่ใช่ว่ามันอันตรายหรือจะกระทบกับเราแค่ไหน แต่เราจะอยู่และใช้ประโยชน์กับเจ้าเครื่องมือตัวนี้ให้ได้มากที่สุดอย่างไรมากกว่า

Forbes CNET Time
NBC News chat.openai.com
Financial Times

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส