ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อสัก 5-6 ปีก่อนแล้วมีคนบอกว่า Apple จะให้บริการบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่แปลกเกินจะเป็นจริงได้ เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า Apple นั้นเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่สุดเจ้าหนึ่งของโลก เจ้าของผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ที่มีชื่อเสียงอย่าง iPhone, Apple Watch, AirPods, MacBook และ iMac พวกเขาไม่ใช่ธนาคาร จะมีบริการบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงไปทำไมกัน แม้ว่าตอนนั้นจะมีแผนกบริการอย่าง Apple Music, iCloud หรือ Apple TV+ ที่สร้างรายได้อย่างมหาศาลแล้ว การเปิดแผนกด้านการเงินและให้บริการเหมือนอย่างธนาคารดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้เลย

เป็นเวลาประมาณ 4 ปีแล้วที่ Apple Card บริการบัตรเครดิตของ Apple ที่มีพาร์ตเนอร์เป็นธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Goldman Sachs เปิดตัวให้คนใช้งาน ต่อมาเมื่อประมาณเดือนก่อนก็มีบริการด้านการเงินอีกอันออกมาชื่อ Apple Pay Later ที่ให้ลูกค้าสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ของ Apple ราคาไม่เกิน 1,000 เหรียญ (ประมาณ 35,000 บาท) แบ่งจ่ายได้ 6 งวดใน 6 สัปดาห์โดยไม่มีดอกเบี้ย ตอนนี้ล่าสุดลูกค้าสามารถเอาเงินไปฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง 4.15% ของ Apple ได้แล้วด้วย ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของธนาคารอื่น ๆ กว่า 10 เท่า

เพราะฉะนั้นตอนนี้ถ้าเราซื้อ iPhone จาก Apple โดยใช้บัตรเครดิต Apple Card ด้วยบริการอย่าง Apple Pay ไม่เพียงแต่เราจะสามารถแบ่งจ่ายได้ 6 งวดโดยไม่มีดอกเบี้ยแล้ว เรายังได้เงินคืน 3% เข้าบัญชีออมทรัพย์ของ Apple ที่จะได้ดอกเบี้ย 4.15% โดยอัตโนมัติเลย

ซึ่งฟังดูก็เป็นดีลที่ดีอยู่ไม่น้อย แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่ง (ที่ค่อนข้างใหญ่ซะด้วย) นั่นก็คือว่าคุณจะสมัครบัญชีนี้ได้ก็ต้องมี iPhone และยังไม่พอต้องมีบัตรเครดิต Apple Card อีกด้วย (ซึ่งตรงนี้ก็ยังเปิดให้ใช้แค่ในสหรัฐอเมริกาและคนที่จะสมัครได้ก็ต้องมีคะแนนเครดิตที่ดีซะก่อนด้วย)

นอกจากการฝากเงิน (โอนเงิน) เข้าบัญชีออมทรัพย์โดยตรงแล้ว เงินที่ได้รับคืนจาก Apple Card ก็จะเข้ามาในนี้โดยอัตโนมัติ ถ้าจะใช้ก็โอนออกไปคืนหรือโอนไปยัง Apple Cash เพื่อใช้ผ่าน Apple Pay ก็ได้

แม้ว่าตอนนี้ Apple จะเริ่มเหมือนธนาคารไปทุกที แต่เงินที่เราเอาไปฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์แห่งนี้ที่จริงแล้วก็ไปอยู่ในธนาคาร Goldman Sachs สาขา Salt Lake City นั่นแหละ (จากรายงานที่เปิดเผยของ Apple) แต่การที่ Apple นำทั้งหมดเข้ามาอยู่ในระบบนิเวศของตัวเองนี้ทำให้ลูกค้าและผู้ใช้งานของ Apple เองก็แทบจะทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบตรงนี้ได้หมดเลย

เป้าหมายของสิ่งที่ Apple ทำในตอนนี้น่าจะไม่ใช่การแข่งขันกับธนาคารยักษ์ใหญ่โดยตรง แต่เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบของตัวเอง และดึงดูดให้ผู้ใช้งานอยู่ตรงนี้ไม่ย้ายค่ายไปใช้บริการของสมาร์ตโฟนเจ้าอื่นมากกว่า

ตอนนี้ลูกค้าสามารถสมัครบัตรเครดิตจาก Apple จะกู้เงิน (แบบระยะสั้น) ก็ได้ หรือจะฝากเงินเพื่อกินดอกเบี้ยตอนนี้ก็ทำได้แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ฉลาดมากในมุมของ Apple เพราะถ้าเราไปถามคน 100 คนบนท้องถนนว่าตอนนี้คุณเชื่อใจใครมากกว่ากันระหว่างธนาคารกับ Apple คนส่วนใหญ่อาจจะบอกว่า Apple ด้วยซ้ำจากข่าวร้ายเกี่ยวกับธนาคารที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา (Silicon Valley Bank, Signature Bank หรือ Credit Suisse) เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าบริการด้านการเงินที่ Apple มอบให้กับลูกค้าของตัวเองนั้นจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากนัก

อีกเหตุผลหนึ่งที่ Apple ทำให้ทุกอย่างอยู่บน iPhone ไม่ว่าจะเป็นบัญชีออมทรัพย์ บัตรเครดิต เพราะมันคือ iPhone นั่นแหละ ยิ่งเราใช้บริการที่อยู่ในนั้นมากเท่าไหร่ เรายิ่งไว้ใจ วางใจ และไม่สามารถเปลี่ยนใจไปจากมันได้ เมื่อใช้แล้วก็ใช้ต่อไป ถึงเวลาก็ซื้อรุ่นใหม่ พวกเขาไม่มีทางหยุดขาย iPhone แต่จะทำยังไงให้เราซื้อและใช้ต่อไปได้เรื่อย ๆ แม้เจ้าอื่น ๆ จะมีโมเดลใหม่กว่า ฟีเจอร์ดีกว่า หรือราคาถูกกว่า ก็ทำให้ผู้ใช้งานใช้บริการที่มีอยู่บนเพียง iPhone เท่านั้นยังไงล่ะ

เหตุผลที่ทำให้ Apple สามารถให้ดอกเบี้ยสูงขนาดนี้ได้ พวกเขาก็ต้องได้อะไรตอบแทนด้วย ไม่ใช่แค่ลูกค้าที่ติดอยู่ในระบบนิเวศเท่านั้น แต่น่าจะได้ส่วนแบ่งบางอย่างจาก Goldman Sachs ซึ่งเป็นธนาคารจริง ๆ ด้วย ลองจินตนาการก็ได้ว่าคุณเอาเงินเข้าไปไว้ในบัญชีออมทรัพย์ธนาคารปกติแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? พวกเขาก็เอาไปลงทุน ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่านั้นเพื่อสร้างกำไรให้กับธนาคาร ตรงนี้ก็เหมือนกัน คุณเอาเงินไปฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ของ Apple เพื่อหวังดอกเบี้ย ซึ่งแท้จริงแล้วบัญชีนี้ดูแลโดย Goldman Sachs (เพียงแต่ติดตราประทับรูปแอปเปิลเอาไว้) ซึ่งก็เอาไปปล่อยกู้ต่อ ส่วนที่เป็นกำไรก็ต้องเอามาแบ่งเข้ากระเป๋าของ Apple อยู่ดี

แม้จะดูเหมือนเราเป็นผู้ได้ผลประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ Apple มอบให้ แต่พอมองมุมนี้ Apple ไม่ได้เสียอะไรเลย และมีแต่ได้กับได้มากกว่า ได้ทั้งลูกค้าที่มีความสุข ได้ทั้งส่วนแบ่งกำไรจาก Goldman Sachs ด้วย

นั่นคือเป้าหมายของ Apple ทำให้ iPhone กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะใช้ทำงาน สื่อสาร ถ่ายรูป ช้อปปิ้งออนไลน์ และตอนนี้ทำธุรกรรมการเงิน แถมยังฝากเงินได้อีกด้วย

พอมองแบบนี้การที่ Apple จะให้บริการบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงก็ไม่ได้ดูแปลกอะไร กลับดูเป็นการเดินหมากธุรกิจที่ชาญฉลาดซะด้วยซ้ำ

ที่มา:
CNN APPLE INC
INC Fool.com CNN INC

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส