‘หมอเฮนรี่ หรือ Khant Zaw Win’ ทันตแพทย์หนุ่มอายุ 29 ปี ที่ชื่นชอบงานพิธีกรและการออกหน้ากล้อง สู่การได้ทำงานจริงแบบมืออาชีพกับบทบาททาเลนต์แบไต๋ CLMV ประเทศเมียนมา ที่ผ่านมาคุณหมอเคยเป็นเด็กติดเกม จนเกือบโดนคุณแม่ไล่ออกจากบ้าน แถมยังเป็นคนชอบเที่ยวทุกรูปแบบ แต่ด้วยทัศนคติเฉพาะตัวทำให้คุณหมอบาลานซ์ทุกอย่างได้เป็นอย่างดี คุณหมอมีวิธีอย่างไรไปพูดคุยกับเขากันเลย!
ถูกคุณแม่ยื่นคำขาดว่าจะเลิกเล่นเกม หรือออกจากบ้านไป!
ใช่ครับ เพราะช่วงก่อนเข้ามหาลัยผมติดเกมมาก ทั้งที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต แต่ผมเล่นเกมเช้ายันเย็นยันค่ำ ทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดเลย จนแม่บอกว่าถ้าไม่เลิกเล่นเกมก็ออกจากบ้านไป (หัวเราะ) ก็เลยต้องเลิกเล่นเกม เพื่อที่จะเรียนหนังสือให้ได้เกรดดี ๆ ครับ ซึ่งเราก็ตั้งใจเรียนมาก ๆ จนเลือกได้ว่าจะไปใช้ชีวิตต่อที่ไหนออสเตรเลีย หรือไทย แต่สุดท้ายก็เลือกที่ไทย เพราะคิดว่าเหมาะกับผมมากกว่า มันใกล้กับที่บ้าน เวลาผมคิดถึงบ้าน หรือที่บ้านอยากเดินทางมาหาผมมันสะดวกกว่าครับ และเพื่อนทุกคนก็อยู่ที่นี่ก็เลยเลือกมาที่นี่ครับ
ชอบอะไรในประเทศไทย
อย่างแรกคืออาหารไทย ผมชอบอาหารไทยมาก อย่างที่สองคือคนไทยไนซ์มาก (เป็นกันเอง) การทำงาน การใช้ชีวิตร่วมกันสบายมาก ๆ ผมเลยชอบที่นี่มาก ๆ ครับ
ทำไมถึงเลือกเรียนหมอ
ย้อนไปตอนมัธยม หลังจากโดนคุณแม่ตักเตือนเราก็ตั้งใจเรียน จนได้คะแนนสูง แล้วก็เลือกได้ว่าจะเรียนอะไร จะเป็นแพทย์ หรือทันตแพทย์ก็ได้ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้จะเรียนอะไร แต่คุณแม่ก็แนะนำให้เรียนทันตแพทย์ แถมเพื่อน ๆ ก็เลือกเรียนทันตแพทย์เหมือนกัน ผมก็เลยเลือกทันตแพทย์ครับ (หัวเราะ)
คุณเป็นหมอ มีวิธีจัดการความเครียดอย่างไร
เห็นผมเป็นคนยิ้มแย้มแบบนี้ จริง ๆ แล้วก็มีเรื่องเครียดเหมือนกันครับ เช่นเรื่องงานต่าง ๆ แม้ผมจะไม่ได้รักษาคนไข้แล้ว เพราะมาดูในส่วนของการบริหารจัดการ แต่ก็มีบ้างที่เครียด ๆ ผมก็จะพยายามจัดการมัน ไม่ให้ความเครียดเข้ามามีส่วนกับชีวิตมากเกินไป เช่นไปเที่ยว ไปหาเพื่อน ไปดื่มเบา ๆ ผมเป็นคนชอบไปเที่ยวมาก แต่จะมีลิมิตนะครับ เพราะเราต้องมีความรับผิดชอบ เราไม่ได้ไปเพื่อทิ้งตัว เราไปเพื่อให้มันลืมความเครียดไปบ้าง แล้วพอเราปลอดโปร่ง ก็จะมองเห็นหนทางจัดการปัญหาต่าง ๆ มากขึ้นครับ
นอกจากเป็นหมอกับเที่ยวแล้ว มีความสนใจอย่างอื่นอีกไหม
ผมมีความสนใจหลายอย่าง ชอบไปเที่ยว ไปปาร์ตี้ ไปเต้น ไปตีแบด ไปว่ายน้ำ พูดง่าย ๆ คือถ้าเพื่อนชวนไปไหนผมก็ไป และไปได้หมด คือผมอาจไม่เก่งทุกอย่าง แต่ก็จอย ๆ กับเพื่อนได้ครับ
เข้ามาเป็นทาเลนต์ CLMV ได้อย่างไร
ตอนนั้นเพื่อนคนหนึ่งที่เคยทำงานที่แบไต๋ นั่นก็คือ ลูกแก้ว ศรีกานต์ (อดีตทาเลนต์แบไต๋) มาชวนผม บอกว่าแบไต๋กำลังมีโปรเจกต์ CLMV สนใจมาทำไหม เพราะเห็นว่าเราเคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาบ้างแล้ว แต่ผมก็บอกว่าด้วยอาชีพของผม เวลาของผมอาจจะไม่ลงตัว กลัวให้เวลามาถ่ายทำไม่ได้ แต่ลูกแก้วก็บอกว่าทีมงานแบไต๋ไม่ซีเรียสเลย เราคุยเรื่องเวลาได้ แบไต๋ว่างวันไหน เราว่างวันไหน หาคิวที่ตรงกัน จนสุดท้ายพอคุยเรื่องเวลาลงตัว ก็เลยได้มาร่วมงานกันครับ
คุณกับ IT เกี่ยวข้องกันขนาดไหน
ผมไม่ใช่คนเด็กไอทีจ๋า เพราะเรียนหมอ ดังนั้นก็อาจจะถนัดด้าน Medical (การแพทย์) แต่ในเชิงข่าวสารผมค่อนข้างจะติดตาม เพราะเป็นชอบดูข่าวครับ เช่นมือถือเครื่อง คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ออก ผมก็จะชอบตามข่าว ตามสเปก แต่ในเชิงเทคนิคอาจจะไม่ได้ลึกขนาดนั้นครับ
คาดหวังอะไรจากการเป็นทาเลนต์ CLMV
ความคาดหวังก็คือได้มีโอกาสทำงานแบบนี้ที่ประเทศไทยครับ เพราะส่วนตัวผมเป็นคนชอบออกกล้อง ชอบงานพิธีกร ชอบงานเบื้องหน้าอยู่แล้ว และที่สำคัญคือการทำให้คนพม่าได้รู้เรื่อง IT มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ผ่านแบไต๋ นี่ความหวังของผมเลยครับ
ถ้าได้คิดคอนเทนต์เอง และเป็นทาเลนต์เองด้วย อยากทำคอนเทนต์อะไร
ผมเคยทำช่องของตัวเองเหมือนกันครับ เลยคิดว่าถ้าผมได้ทำคอนเทนต์เอง เป็นทาเลนต์เอง แล้วมีแบไต๋ซัปพอร์ตโปรดักชัน ก็คิดว่าจะทำสิ่งที่ตัวเองถนัดและสนใจครับ เช่นเรื่องไอที แกดเจ็ตต่าง ๆ หรือการไปเที่ยวครับ ผมคิดว่ามันต้องสนุกแน่ ๆ ครับ (ยิ้ม)
ช่องทางติดตาม: Instagram
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส