หนุ่ย-พงศ์สุขคุยกับ จิ๊บ-สมยศ เชาวลิต ผู้ก่อตั้งร้าน #JIB เผยเบื้องหลังวงการขายสินค้าคอมพิวเตอร์ ออกงานขายจนขาดทุน แต่ทำไมยังไปขาย พร้อมเผยความเป็นไปได้ถึงงานคอมใหม่
ผ่านงานจัดแสดงคอมพิวเตอร์มาหลายปีเห็นโพสต์บน Facebook รู้สึกโกรธหรือว่าเป็นอะไร?
ผมรู้สึกว่าการไปออกงานอย่างน้อยเรื่องชื่อเสียงเรื่องลูกค้าได้รู้จักว่าแบรนด์ไอทีมีใครบ้าง การไปออกงานในครั้งนี้ไม่ต้องมีกำไรหรอกแต่อย่าให้ขาดทุนก็พอ ซึ่งแต่ครั้งก็ขาดทุนประมาณ 3 ล้าน
เราออกงานกันหนึ่งครั้งใช้พื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร โดยรวมเราใช้คนทำงานทั้งสิ้นประมาณ 500 คน ซึ่งการขาดทุน 3 ล้านนั้นถือว่ารวมทุกอย่างแล้ว แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะขาดทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไปออกงานคอมขายดีมากขึ้นแต่ทำไมยังขาดทุน?
แพลตฟอร์มดัง ๆ ที่เขามาจัดโปรโมชันต่าง ๆ เช่นซื้อสินค้าราคา 8 หมื่น ลดราคาเหลือ 7 หมื่น ร้านค้าได้ 8 หมื่นเต็มแต่ว่าค่าธรรมเนียมที่เขาเก็บเรามันเยอะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องแบ่งเงิน 8 หมื่นไปให้แพลตฟอร์ม 10% กันเลยทีเดียว นี่ยังไม่รวมกรณีลูกค้าผ่อนนะถ้าผ่อนก็จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ซึ่งทางร้านจะต้องเป็นคนจ่ายกับแพลตฟอร์มเอง
ได้ยินมาว่าสินค้าไอทีได้ Margin เพียง 7%
accessory จะได้เยอะหน่อยประมาณ 15-20% หลัก ๆ คือพวกโน้ตบุ๊ก โดยเฉลี่ยทั่วไปคือ 7% ยิ่งขายได้มากยิ่งขาดทุน ย้อนกลับไปเมื่อสมัยผมเด็ก ๆ เวลาเราไปเดินงานคอมเรามีความสุขกันมากเพราะเราได้เห็นการโชว์นวัตกรรมใหม่ ๆ มีกิจกรรมแจกของรางวัล ผมไปเดินหาความรู้บ่อย ๆ เพราะเมื่อก่อนนั้นหาได้ยาก เพราะต้องไปเดินตามงานเก็บเอกสารต่าง ๆ กลับบ้านแล้วมานั่งอ่านรู้สึกว่ามีความสุข แต่ปัจจุบันงานพวกนี้ในไทยผมไม่ค่อยเห็น เพราะปัจจุบันการเป็นงานขายของแข่งกันมากกว่า
JIB เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้ารายใหญ่มีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร?
ผมคิดว่ามันควรจะมีงานที่แสดงสินค้านวัตกรรมและให้ความรู้อย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้น เพราะปัจจุบันเป็นเหมือนงานขายของแข่งกัน
บทบาทของการจัดแสดงงานคอมพิวเตอร์จัดไปเพื่ออะไร?
อย่างงาน CES ที่จัดขึ้นที่อเมริกาเป็นงานโชว์คอมฯ ที่ไม่มีการขายของ เวลาคนที่เข้ามาดูเพราะเขาต้องการมาหาความรู้มาดูโชว์นวัตกรรมใหม่ ๆ ความรู้ที่อยู่ตามงานคอมปัจจุบันเราสามารถหาดูได้ตามสื่อต่าง ๆ อยู่แล้วแต่สิ่งที่คนอยากเห็นมากที่สุดคือการได้เห็นของจริงมันสำคัญกว่าเหมือนเราอยากจะทำห้อง 1 ห้องเราไปเดินที่ร้านขายเฟอร์นิเจอร์เราก็จะได้เห็นของจริงไอเดียการตกแต่ง ผมเลยอยากให้มาเห็นของจริงว่าห้องเล่นเกมต้องเป็นแบบนี้นะ มีโต๊ะเล่นเกม เก้าอี้เล่นเกม คนจะได้รู้ว่าจะเอาไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง
ทำไมผู้ค้าไอทีในไทยต้องแข่งขันกันมากขนาดนั้น?
เพราะเราไม่ได้คุยกัน ถ้าหากคุยกันอาจจะได้ทางออกที่ดีกว่านี้ แต่ถ้าคุยกันเองจะผิดหลักการคุ้มครองผู้บริโภคถือว่าเป็นการฮั้วราคาเพราะฉะนั้นจึงคุยไม่ได้
JIB ในฐานะที่รู้จักกับแบรนด์มากมายจะแก้ปัญหาอย่างไรให้งานไอทีเป็นงานที่โชว์นวัตกรรมมากกว่าการขายของ?
อย่างงานล่าสุดที่ผมไป ผมได้ไปเห็นจอคอมพิวเตอร์ที่เป็นจอโค้งแต่สามารถทำให้ตรงได้ ผมจึงไปเชิญชวนเขามาให้มาโชว์ในงานผมหน่อย ซึ่งถ้าเราขอความร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ ทางแบรนด์เขายินดีที่จะนำสินค้ามาโชว์อยู่แล้ว ถ้าเราอยู่เฉย ๆ ก็จะเป็นงานขายสินค้าไอทีแบบเดิม
มหกรรมแข่งขันการลดราคาอนาคตจะเป็นอย่างไร?
ผมว่าร้านค้าน่าจะลดลงไปเรื่อย ๆ เพราะขาดทุน ทุกวันนี้เราขายก็ขาดทุนอยู่แล้วเพียงแต่ว่าเราขอเงินจากแบรนด์ต่าง ๆ มาช่วยซัปพอร์ตทำให้เรายังอยู่ได้
หรือรับชมคลิปสัมภาษณ์เต็มได้ที่นี่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส