ก่อนที่สตรีมมิง Max จะเปิดตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา BT BUZZ มีโอกาสได้สัมภาษณ์และพูดคุยกับหัวหน้าฝ่ายสตรีมมิง Max ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Streaming Lead, Warner Bros. Discovery) อย่าง คุณเจสัน มอนเทโร (Jason Monteiro) ถึงประเด็นความน่าสนใจของสตรีมมิง Max และการเปลี่ยนแปลงของแอปพลิเคชันที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ของสตรีมมิง Max ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นอย่างไร ?
มอนเทโร : กลยุทธ์หลักของพวกเราคือ พวกเราเป็นบริษัทที่ผลิตคอนเทนต์ พวกเราสร้างเนื้อหาดี ๆ และคัดสรรคอนเทนต์ที่ดี โดยภารกิจของพวกเราคือการนำเสนอเรื่องราวและเนื้อหาดี ๆ เหล่านี้ให้แก่ผู้ชมและแฟน ๆ ให้ได้มากที่สุดทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงการเปิดตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง และรวมไปถึงประเทศไทยด้วย
ผลงานแฟรนไชส์ของเราที่เป็นที่รู้จักนั้นมีมากมาย เช่น ‘Harry Potter’ ที่เป็นที่นิยมในไทย จักรวาล DCU ที่มีฮีโรทั้ง ซูเปอร์แมน แบทแมน วันเดอร์วูแมน อควาแมน หรือซีรีส์ ‘Game of Thrones’, ‘Sex and the City’, ‘The Sopranos’ รายการที่โด่งดังของ HBO Original อย่าง ‘Friends’ และรายการเรียลลิตีจาก Discovery เช่น TLC, HGTV เป็นต้น โดยสิ่งเหล่านี้คือแกนหลักของกลยุทธ์ รวมถึงการทำให้แฟน ๆ พึงพอใจกับรายการและคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
โดยผู้ใช้งานสามารถปรับใช้ Max ได้แบบมีความเป็นส่วนตัวและใช้งานได้อย่างราบรื่นมากขึ้น กล่าวคือ Max นั้นมีฟีเจอร์ที่สามารถปรับแต่งโปรไฟล์ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละคนได้ คุณสามารถเลือกอวาตาร์เพื่อใช้เป็นโปรไฟล์ได้ จากอวาตาร์ทั้งหมดที่มีมากกว่า 100 ตัวละคร ทั้ง ‘Tom & Jerry’, ‘Looney Tunes’ หรือตัวละครจาก ‘Harry Potter’ และใน Max ได้มีการปรับ UI (User Interface) ของผู้ใช้งานให้ใช้ได้ง่าย รวดเร็ว และมีคุณภาพที่สูงมากขึ้น
ในส่วนสุดท้ายคือ Max จะต้องมีความปลอดภัย โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ๆ ที่ใช้งาน เราได้มีการทำโปรไฟล์สำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะ ที่เป็นโปรไฟล์ที่ผู้ปกครองสามารถควบคุมได้ รวมถึงการตั้งรหัสผ่านก่อนเข้าใช้งาน และในโปรไฟล์นั้น ๆ จะมีการแบ่งกลุ่มย่อยตามอายุของเด็กอีกครั้ง ได้แก่ เด็กเล็ก เด็กโต วัยก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถจัดการและเลือกสรรเนื้อหาตามเรตให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก ๆ ได้
กล่าวโดยสรุปคือ กลยุทธ์หลักของพวกเราคือการนำเสนอคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยมให้เข้าถึงผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด ผ่านประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย Max
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Max แตกต่างจากสตรีมมิงอื่น ๆ ในตลาดเอเชียคืออะไร ?
มอนเทโร : สิ่งแรกคือ พวกเราไม่ได้เป็นแค่ผู้ให้บริการสตรีมมิงอีกรายหนึ่งในตลาด พวกเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการที่จะเป็นหนึ่งในสตรีมมิงที่ดีที่สุด โดยแกนหลักที่สร้างความแตกต่างให้กับ Max คือคอนเทนต์และเนื้อหาต่าง ๆ เช่น การเปิดตัวซีรีส์ ‘Dune: Prophecy’ หลังจากความสำเร็จของหนังทั้ง 2 ภาค และผลงาน HBO Original ที่เตรียมเสิร์ฟในปีหน้า ทั้ง ‘The White Lotus’ ซีซัน 3 ซึ่งพวกเรารู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เพราะซีซันนี้ได้ไปถ่ายทำที่ประเทศไทยและนอกจากนี้ยังมี ลิซ่า (ลลิษา มโนบาล) มาร่วมแสดงในซีซันนี้ด้วย และยังมี ‘The Last of Us’ ซีซัน 2 รวมถึงผลงานสปินออฟจากซีรีส์ ‘Game of Thrones’ ที่ชื่อว่า ‘A Knight of the Seven Kingdoms’ และรายการใหม่จาก ‘Harry Potter’ อย่าง ‘Harry Potter: Wizards of Baking’ นอกจากนี้ยังมีหนังบล็อกบัสเตอร์จาก Warner Bros., Paramount, Universal Pictures เช่น ‘Barbie’, ‘Beetlejuice Beetlejuice’, ‘Oppenheimer’, ‘The Super Mario Bros. Movie’, แฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ เป็นต้น และรายการสำหรับครอบครัว เช่น ‘Cartoon Network’ ทั้ง ‘Tom & Jerry’, ‘Looney Tunes’, ‘We Bare Bears’ และอีกมากมาย
ฟีเจอร์ใดของ Max ที่คาดว่าดึงความสนใจของผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้มากที่สุด ?
มอนเทโร : Max นั้นมีฟีเจอร์เฉพาะที่มาเปิดตัวในเอเชียเป็นครั้งแรก และไม่เคยเปิดตัวที่ไหนมาก่อน ซึ่งในเอเชียและประเทศไทยนั้นเป็นตลาดที่มีการรับชมเนื้อหาต่าง ๆ ผ่านทางมือถือเป็นจำนวนมาก เราจึงเปิดตัวฟีเจอร์ที่สามารถล็อกอิน Max ด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือ และไม่จำเป็นต้องใช้อีเมลหรือรหัสผ่าน ใช้แค่หมายเลขโทรศัพท์ในการยืนยันตัวตนก็พอ โดยฟีเจอร์นี้จะมีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง รวมถึงประเทศไทยด้วย
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของโปรไฟล์ผู้ใช้งานที่ผมได้พูดไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยนอกจากโปรไฟล์ที่ปรับแต่งได้แล้ว ภายใน Max ยังมีการปรับแต่งเนื้อหาส่วนบุคคล (Personalization) ที่หน้าโฮมเพจของผู้ใช้งานแต่ละคนจะถูกปรับแต่งและได้รับคำแนะนำเนื้อหาให้เหมาะสมกับความชอบของแต่ละคนโดยอัตโนมัติ
ผู้ใช้ Max ยังสามารถใช้งานได้บนหลากหลายอุปกรณ์ เช่น ทีวี มือถือ เป็นต้น และที่สำคัญสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาไว้ดูแบบออฟไลน์ได้
3 รายการโปรดของ เจสัน มอนเทโร บน Max มีเรื่องอะไรบ้าง ?
มอนเทโร : เริ่มจากรายการแรกที่เป็นหนึ่งในเรื่องโปรดของผมและเป็นที่นิยมอย่างมากด้วย นั่นคือ ‘Game of Thrones’ ผมรักซีรีส์เรื่องนี้มาก ผมดูครบทั้ง 8 ซีซัน และเผลอ ๆ ผมคิดว่าอาจจะเคยดูไปประมาณ 3-5 รอบเลยก็ได้ ผมดูทั้งแบบดูคนเดียว ดูกับภรรยา ดูกับเพื่อน ๆ และเพื่อนร่วมงาน ผมก็เลยรักซีรีส์เรื่องนี้มาก รวมไปถึง ‘House of the Dragon’ ที่เร็ว ๆ นี้จะมีซีซัน 3 ออกมา
อีกหนึ่งรายการโปรดที่เป็น Max Original คือ ‘Warrior’ และเรื่องสุดท้ายเนื่องจากผมมีลูก ผมก็เลยชอบ ‘Rick and Morty’ ที่เป็นการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่หน่อย ๆ และลูกสาวอายุ 20 ปีของผมก็ชอบดู ‘Rick and Morty’ ด้วยเหมือนกัน ทำให้ผมได้ใช้เวลาร่วมกับเธอในการดูการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยกัน