เพื่อน – สุเมธ ศุภนิมิตรสมบัติ Marketer กับงานอดิเรก
“เที่ยวรอบโลก”
“Marketer” อีกอาชีพที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ เพราะเป็นอาชีพที่ท้าทายความสามารถ ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเฉลียวฉลาดรอบด้านอยู่เสมอ แต่การจะเป็นนักการตลาดนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้ อยากรู้มั้ยคะ ว่านักการตลาดเก่งๆ เค้ามีชีวิตยังไงกัน วันนี้บีจะพาชาวแบไต๋ไปรู้จักกับ “เพื่อน – สุเมธ ศุภนิมิตรสมบัติ” นักการตลาด ที่ไม่ได้มีดีแค่ “การตลาด” ตามบีมาค่ะ!!
พี่เพื่อนเริ่มต้นอาชีพการตลาดได้ยังไง เล่าให้ฟังหน่อยสิ
ตอนนั้น HR โทรมาบอกให้พี่ไปมาสัมภาษณ์แล้วพี่ก็เข้าไปคุยกันอยู่ 2-3 ชั่วโมง แล้วเค้าก็บอกว่าชอบพี่ พี่ก็เลยเขิน ล้อเล่นครับ (หัวเราะ) พี่ก็เลยบอกเอาสิ เริ่มงานเลย! หลังจากนั้นอีกเดือนพี่ก็เริ่มมาเดินทางสายการตลาดออนไลน์แบบจริงจังครั้งแรก เอาจริงๆ คือ พี่โชคดีที่พี่รู้ว่า เราชอบทำอะไร เราอยากทำอะไร เลยวางแผนไว้ตั้งแต่ก่อนเรียนจบแล้วว่าพี่ควรเลือกเดินทางสายนี้
ใครๆ ก็อยากเป็น Marketer ในฐานะที่ทำงานด้านนี้ คิดว่างานด้านนี้มีเสน่ห์ยังไง
พี่เคยได้ยินหลายคนพูดว่า “ใครๆ ก็มาเป็น Marketer ได้” พี่ได้ยินแล้วแบบอยากจะลุกขึ้นมา ดีดนิ้ว แล้วปรับทัศนคติมาก (หัวเราะ) คนการตลาดต้องเป็นคนมี Taste นะสำหรับพี่ สายนี้มันเหมือนเป็นตรงกลางระหว่าง สายติส อาร์ทๆ กับสายตัวเลข ทุกแคมเปญการตลาด ทุกไอเดียที่เราทำ เราต้องวัดผลลัพธ์ออกมาเป็นตัวเลขให้ได้ และนี่แหละที่ทำให้มันมีเสน่ห์ เพราะทีมสายติสจ๋าก็ทำไม่ได้ ทีมสายเนิร์ดก็อย่าได้หวัง (ยิ้ม)
ถ้าอยากทำงานด้านการตลาด พี่เพื่อนว่าต้องมีสกิลอะไร
ความเข้าใจในตัวผู้บริโภคของบริษัทเรา พี่ว่านี่แหละสำคัญสุด เพราะถ้าเราไม่เข้าใจลูกค้าเรา เราพูดอะไรไป เค้าก็ไม่ฟังไม่เชื่อเราหรอก ซึ่งนิสัยของคนการตลาดอีกอย่างหนึ่งที่ต้องมีคือ ช่างเผือก เราต้องรู้วิถีชีวิตลูกค้าเราเพื่อที่เราจะได้ พูดภาษาเดียวกับลูกค้า
คติในการทำงานของพี่เพื่อนหล่ะ ?
Work Smart, don’t work hard
ด้วยความที่พื้นเพพี่เป็นคนขี้เกียจไง พี่จะรำคาญตัวเองมากถ้าต้องนั่งงมทำงานเดิมทั้งวันและไม่เสร็จ และต้องเอางานไปทำนอกเวลางาน ถ้าจะขี้เกียจก็ต้องขี้เกียจให้ได้ดี ต้องมีทริค ในชีวิตการทำงานเราไม่ได้ทำงานคนเดียวอยู่แล้ว เราต้องรู้ว่าจุดแข็งเราคืออะไร จุดอ่อนเราคืออะไร อะไรที่คนอื่นทำแล้วดีกว่าก็ให้เขาทำ อย่าเอาทุกอย่างมาลงที่ตัวเอง จะได้ไม่ต้องมานั่งจมกับกองงานที่ตัวเองทำไม่ได้
เห็นมีงานอดิเรก เป็นแอดมินเพจท่องเที่ยวด้วย เป็นมายังไงคะ
หูย เรื่องนี้คุยกันยาวนะ (หัวเราะ) อ้ะ ขายของก่อน เพจพี่ชื่อ เพื่อนรี่ – PUEANRY พี่ทำกับเพื่อนชะนีอีกคนหนึ่งที่มีแต่คนคิดว่านางไม่ใช่ชะนี เพจมันเริ่มต้นมาจากความที่เรา 2 คนชอบเที่ยว ซึ่งมันก็ไม่แปลกอะไรที่คนเดียวนี้จะชอบเที่ยว เห็นได้จากใน Facebook Feeds ของเราๆ กันทุกวันนี้ เพจใหม่ๆ ผุดกันขึ้นมายิ่งกว่าดอกเห็นโคน คือพี่กับเพื่อนตั้งใจอยากทำเพจที่เล่าประสบการณ์แบบจริงๆ ประสบการณ์ซวยๆ ด้วยภาษาเผ็ดๆ เลยตั้งใจทำเพจท่องเที่ยวที่ทุกคนอ่านแล้วไม่ต้องมีเนื้อหาสาระขนาดต้องหยิบสมุดเล็คเชอร์ขึ้นมาจดหรือต้องกรอกตามองบนว่า “จริงหรอ”
การไปเที่ยวยังที่ต่างๆ ผจญภัยไปเรื่อยๆ ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
สำหรับพี่ พี่ว่ามันทำให้เราเรียนรู้ว่าโลกไม่ได้หมุนรอบเราและลดความคิดแนว “ตัวกูของกู” ลงไป เราอาจจะเป็น Marketer ตอนอยู่กรุงเทพ เป็นนักศึกษาตอนอยู่มหาวิทยาลัย แต่เราแค่นักเดินทางคนหนึ่งที่เดินทางไปในที่ที่เราไม่รู้จัก และเจอคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพื่อนใหม่เกิดขึ้นจากรอยยิ้มและคำทักทายสั้นๆ ไม่ต้องมีกรอบสังคมหุ้มอีกชั้น
มีประสบการณ์ไหน ที่ประทับใจสุดๆ บ้าง
เดือนกว่าๆ ในช่วง Summer ของเยอรมันคือ Moment ที่พี่ว่าอีก 40 ปี พี่ก็น่าจะยังจำได้ ตอนนั้นพี่ไปเป็น Volunteer ในฟาร์ม 2 สองแห่งทางตะวันตกของเยอรมัน ใครว่าช่วยงานในฟาร์มจะหนัก ไม่เลย วันๆ นึง พี่หมดไปกับการเล่นกับหมา จัดโต๊ะอาหาร ปั่นจักรยานในทุ่ง กินข้าวเย็นและคุยกับ Host พี่ไม่ได้รูปคูลๆ มาอัพ Instagram แม้แต่รูปเดียว แต่เราโคตรมีความสุขตอนนั้น
ถ้ามีคนที่อยากจะเริ่มท่องโลกกว้างบ้าง พี่เพื่อนจะแนะนำเค้าว่ายังไง
จองตั๋ว แล้วไปเลย อย่าคิดมาก ไม่มีที่ไหนในโลกที่ไปไม่ได้หรอก ถ้ามีเงินและเวลาพอ (หัวเราะ) พี่ว่ามันไม่มีวิธีหรือ How to อะไรเป็นพิเศษสำหรับคนที่อยากเริ่มท่องเที่ยวนะ เพราะยังไง้ยังไงพี่ว่าคนที่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเที่ยวเค้าก็ได้แต่หาข้ออ้างมาเพื่อจะทำให้เขาไม่ได้ไปเที่ยว ส่วนคนที่อยากเที่ยวจริง พี่ยังเชื่อว่าเค้าจะมีวิธีพาตัวเองไปให้ถึงได้เองแหละ
Marketer แนะนำแอปที่ชอบใช้หน่อยสิ
ตอนนี้พี่กำลังปลื้ม Trello มากๆ ด้วยความที่มันเหมาะกับชีวิตการทำงานของ Marketer ที่มีความหมุนเร็วและมีงานเล็กงานน้อยเข้ามาเรื่อยๆ พอมีแอปนี้เราก็จะจัดการกับชีวิต รู้ว่าเราวันนี้ วันพรุ่งนี้ หรือเดือนหน้าเราต้องทำอะไรบ้าง และ Moment ที่ฟินมากๆ สำหรับพี่คือมันติ๊กได้ว่างานนี้เสร็จแล้ว หรือยังไม่เสร็จ
มันเหมือน App To-do list นะ แต่มันไฮโซกว่าที่เราออกแบบบอร์ดของเราได้เอง ทุกอย่างไม่ได้จำกัดอยู่ที่เป็นหน้า List เดียว ให้เราพิมพ์ลงไป เพราะโดยปกติพี่ไม่ได้ทำงานอย่างเดียวในเวลาเดียว แอปนี้ก็จะดูได้ว่า งานนี้เรากำลังทำอยู่ งานนี้ยังไม่เสร็จ งานนี้เสร็จแล้วต้องแก้อะไรเพิ่ม ไปจนถึงเพิ่มเพื่อนร่วมงานเข้ามาในแอปเดียวกันได้ด้วย
ช่วยให้เราจัดการกับชีวิตเราง่ายขึ้น เป็นคนมีระบบมีแผนในการใช้ชีวิต ทำให้เรา Work Smart ได้มากขึ้น นอกจากนี้พี่ยังเอามาใช้ List Idea สำหรับคอนเทนท์ที่จะโพสลงในเพจเพื่อนรี่ ด้วยความที่มันยืดหยุ่นมากเลยปรับใช้จัดการได้กับทุกสิ่ง
ดาวน์โหลด
โหวว.. นอกจากพี่เพื่อนจะเป็นนักการตลาดที่มากฝีมือแล้ว ยังเป็นนักท่องเที่ยวมืออาชีพอีกด้วย ชีวิตดี๊ดีย์.. ถ้าใครอยากติดตามผลงานการท่องเที่ยวของพี่เพื่อนหล่ะก็ ไปที่เพจนี้ เพื่อนรี่ – Pueanry โลดเลยค่ะ
ส่วนวันนี้บีได้แรงบันดาลใจไปเต็มๆ ขอไปพัฒนาตัวเองยาวๆ แล้วกลับมาเจอกันใหม่ในคอลัมน์ “พี่เค้าใช้แอปอะไร” ในครั้งหน้านะคะ บ๊าย..บาย