[รีวิวเกม] คุนิโอะ Downtown Nekketsu Monogatari SP ตำนานนักเรียนนักเลงกลับมาอีกครั้ง
Our score
7.0

Downtown Nekketsu Monogatari SP

จุดเด่น

  1. กราฟิกย้อนยุคแต่ดูดี
  2. มีความท้าทาย
  3. เล่นได้นานด้วยรูปแบบ RPG

จุดสังเกต

  1. ไม่มีอะไรแปลกใหม่เท่าที่ควร
  2. ช่วงแรกของเกมน่าเบื่อกับการเก็บเลเวล
  • กราฟิก

    7.0

  • รูปแบบการเล่น

    7.0

  • ความแปลกใหม่

    6.5

  • ความคุ้มค่า

    7.0

  • ภาพรวม

    7.5

เรียกว่าเป็นปีทองของเกมซีรีส์ คุนิโอะ เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งจะออกภาคภาษาอังกฤษไปหมาดๆ และยังมีภาครวมฮิตเตรียมออกในเดือนธันวาคมส่วน Downtown Nekketsu Monogatari SP ถือเป็นภาคใหม่ที่หยิบยกตำนานของวงการเกมในยุค 8Bit มาปัดฝุ่นทำใหม่อีกครั้งบน 3DS (อีกแล้ว) เรียกว่าออกบ่อยกันจนแฟนเกมสับสนชื่อภาคกันเลย

1

เกมซีรีส์ คุนิโอะ นับเป็นหนึ่งในตำนานของวงการเกมในยุค 80 ที่ออกเป็นเกมตู้ก่อนจะออกบน แฟมิคอม และก็ประสบความสำเร็จบนคอนโซลของ Nintendo อย่างมากมายสามารถขายได้หลักล้านตลับ และมีภาคต่อออกมาเป็นสิบภาค แม้ว่าหลักจากนั้นคุนิโอะจะดูเงียบๆไปบ้าง โดยเฉพาะในยุคที่คอเกมหันไปเล่นเกม 3D กันหมด จนกระทั้งถึงยุคที่คอเกมโหยหาความคลาสสิกในเกมทำให้ต้นสังกัดขุดมันจากหลุมกลับมาขายใหม่ แถมยังออกถี่จนใน 1 ปีเราอาจได้เล่น คุนิโอะ กันหลายเกม

โดยในเกม Downtown Nekketsu Monogatari SP จะแตกต่างจากคุนิโอะภาคอื่นตรงที่ ฉากในเกมจะถูกปรับเปลี่ยนใหม่หมดให้มีความสมจริงขึ้น มีการใส่ของประกอบฉาก และออกแบบองค์ประกอบศิลป์ใหม่หมด ไม่เหมือนกับเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ที่เหมือนกับการนำภาพสมัยแฟมิคอม 8 Bit มาทำใหม่ แต่คราวนี้กราฟิกแม้จะเป็น ดอทพิกเซลแต่มันก็ดูดีเกินกว่าจะเรียกมันว่ามันคือเกมในยุค 8 Bit เพราะฉากหลังมีรายละเอียดจนเกินกำลังของแฟมิคอม จึงทำให้มันคือเกมยุคใหม่ที่จงใจทำกราฟิกให้ย้อนยุคมากกว่า

3

เช่นเดียวกับเพลงประกอบที่แม้ว่าฟังผ่านๆมันคือดนตรีประกอบเกมที่หลุดมาจากยุค 80 แต่ก็ดูไม่เชยมีการเอาเพลงธีมเดิมที่มีตั้งแต่ภาคแรกมาปรับแต่งใหม่ด้วย ทำให้มันมีทั้งความสดใหม่และคลาสสิกในตัวแบบที่เด็กรุ่นใหม่ก็เล่นได้ ที่ต้องชมกันหน่อยคือเสียงประกอบที่ปรับเปลี่ยนให้มีความคมชัดเช่นตอนเราปล่อยท่าไม้ตายที่ดูทรงพลังแม้ว่ากราฟิกยังคงย้อนยุคก็ตาม

รูปแบบการเล่นโดยภาพรวมแล้วมันคือเกมแอ็คชั่นต่อยตี ผสมกับ RPG ที่เวลาในเกมจะเดินไปเรื่อยๆแบบ Real Time มีการแบ่งเป็นวัน ที่ครบ 1 วัน(ประมาณเที่ยงคืน) เราก็ต้องกลับบ้านไปนอนแล้วเริ่มใหม่ในวันรุ่งขึ้น โดยเราต้องท่องไปในเมืองที่แม้ว่าดูไม่ได้กว้างใหญ่มากมายอะไร แต่ดูเหมือนภาคนี้ผู้สร้างจงใจทำให้มันซับซ้อนขึ้นกว่าเดิมมาก เช่นในฉากจะมีซอยแยกย่อยออกมาเป็นทางลับมากมาย และมีอาคารหรือร้านค้าที่เราเดินเข้าไปได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะฉากที่เป็นเหมือนเวทีประลอง หรือคลับบาร์ ที่ซุกซ้อนอยู่ชนิดหากเราไม่ตั้งใจเดินหาดีๆก็อาจไม่เจอ แต่ก็ต้องออกเดินหาเพื่อทำเนื้อเรื่อง ที่ไม่ได้มีการบอกกันแบบตรงๆว่าต้องไปทำอะไรที่ไหนเหมือนกับเกม RPG ยุคใหม่

fdsfd

และด้วยรูปแบที่เน้นไปที่การเก็บเลเวลทำให้เมื่อคุณเริ่มเกมจะพบว่า ตัวเอกคุนิโอะของเราจะดูอ่อนแอมาก เจอศัตรูระหว่างทางก็แทบจะต้องวิ่งหนีตลอด ความอ่อนแอของตัวเอกนี้ถึงขนาดมีฉากที่ คุนิโอะ ต้องคุกเข่ากราบศัตรูเพื่อเอาตัวรอดกันเลย เรียกว่าเสียศักดิ์ศรีตัวละครในตำนานจนแฟนเกมอาจรับไม่ได้

ทำให้ในช่วงแรกของการเล่นเราต้องนั่งเก็บเลเวลกันตลอดซึ่งทำให้คอแอ็คชั่นแท้ๆคงหงุดหงิดไม่น้อย แถมช่วงแรกๆเราต้องคอยหลบหลีกศัตรูที่มีเลเวลสูงกว่าเพราะเราไม่มีทางสู้ได้เลย ทำให้ดูน่าเบื่อมาก แถมเงินก็หาได้ยาก แค่จะมาซื้อของกินไว้เติมพลังก็แทบไม่พอแล้ว จุดนี้ถือว่าเป็นข้อเสียเพราะไม่ว่าคุณจะเล่นเกมแอ็คชั่นเก่งแค่ไหนก็ต้องเสียเวลามานั่งเก็บเลเวลกันทุกคน แถมศัตรูในเกมก็มากันเป็นกองทัพ ผู้เล่นต้องใช้ความอดทนกันหน่อยถึงจะผ่านไปได้ และจริงอยู่ที่คุนิโอะภาคก่อนๆก็มีการใช้ RPG มาผสมกับเกมแนวแอ็คชั่นแต่ภาคนี้ดูจะเข้มข้นกับระบบนี้มากขึ้น

008

แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงแรกไปแล้วเกมจะลื่นไหลมากขึ้นชนิดเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะมันจะง่ายดายขึ้นหากเรามีเลเวลสูงพอ แต่ก็ต้องมีอีกส่วนที่ต้องคำนึงถึงคือ การซื้อเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริมของตัวเอกคุนิโอะ ที่เหมือนกับเกม RPG ที่ต้องซื้อชุดเกราะเครื่องป้องกัน แต่บอกไว้ก่อนว่าของในเกมราคาแพงชนิดมหาโหดมาก ดังนั้นจะซื้ออะไรก็ต้องคิดกันให้ดี แต่ถ้าหากไม่อยากเสียเงินซื้อไอเทมที่มีขาย คุณสามารถหาได้จากศัตรู ที่ต้องสุ่มเอาว่ามันจะดรอปไอเทมหรือไม่ แต่ถ้านั่งเก็บเลเวลกันจริงจังก็แทบจะไม่ต้องซื้อเสื้อผ้ากันเลยเพราะได้จากศัตรูแน่ๆ

ส่วนท่าไม้ตายแน่นอนว่าคุณต้องเสียเงินซื้อในร้านหนังสือเหมือนกับต้นฉบับ ที่ราคาหนังสือก็แพงพอๆกับเสื้อผ้า แต่เมื่อซื้อมาใช้แล้วคุณจะพบว่าเราจะใช้ท่าไม้ตายได้จำกัด ต่อให้เป็นแค่การต่อยธรรมดาก็ตาม หากเป็นท่าพิเศษมันจะเสียค่า SP เพื่อใช้มัน แต่ค่า SP จะฟื้นคืนมาทันที เมื่อเราโจมตีโดนศัตรู ทำให้ไม่ต้องกังวลเท่าไรนัก และเราสามารถเลือกปรับแต่งตัวละครให้ใช้ท่าได้หลากหลายมาก แต่ถ้ากดใช้แบบไม่คิดค่า SP ก็จะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน

fdfd

นอกจากท่าเตะต่อยรัวๆที่เราคุ้ยเคยกันดียังมีท่า กลิ้งหมุนตัว หรือต่อยอัพเปอร์คัทแบบโชริวเคนของ สตรีทไฟท์เตอร์ ก็ยังมี และเรายังนำมาสานต่อเป็นท่าไม้ตายทำคอมโบได้ราวกับว่ามันคือเกมต่อสู้แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ก็ต้องใช้เงินไปไม่น้อย ทำให้หลังจากอัพเกรดตัวละครแล้วเกมจะสนุกกว่าเดิมมาก (แต่คุณต้องทนความน่าเบื่อในช่วงแรกให้ได้)

ส่วนของแถมคือโหมดต่อสู้แบบ 2D แบบสตรีทไฟท์เตอร์ แต่กราฟิกจะเป็น 8Bit ในชื่อ Fighting of Double Dragon ที่เหมือนเป็นโหมด VS ที่ใส่มาให้ขำๆ แต่ก็มีการใช้ท่าไม้ตายแบบเดียวกับตัวเกมหลัก ที่มีบางท่าเหมือนหลุดมาจากเกมไฟท์ติ้งในตำนานหลายเกม รวมทั้งเพลงประกอบในโหมดนี้ยังยกมาจากเกม Double Dragon เช่นเดียวกัน

ds

เอาเข้าจริงๆเกม Downtown Nekketsu Monogatari SP ก็ถือเป็นภาคที่สนุกพอตัว แม้ในตอนแรกจะรู้สึกเบื่อจนไม่อยากเล่นแต่พอผ่านช่วงแรกของเกมไปถือว่ามีความลื่นไหลในการเล่น อีกทั้งรูปแบบของการออกแบบฉากที่เหมือนเป็นการนำโลกของเกมในยุค 80 มาอัพเกรดเพิ่มเติมให้มีความซับซ้อนมากขึ้น หากคุณรับได้ในการเดินเก็บเลเวล ทำเนื้อเรื่องแบบแนว RPG การกลับมาของหนึ่งในตำนานของวงการเกมก็ยังพอมีความสนุกให้ค้นหาอยู่บ้าง แต่ถ้าหากคุณชอบเดินลุยมากกว่าแนะนำไปหาภาคอื่นมาเล่นน่าจะดีกว่า

ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2

Play video